มันอาจดูเหมือนไม่มีนัยสำคัญ ในบริบทของฤดูกาลที่วุ่นวายมากขึ้นของท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส ซึ่งชัยชนะดูเหมือนจะเป็นแค่ ตัวที่ทำให้สบายใจแค่ชั่วคราวเท่านั้น และความพ่ายแพ้ทำให้ โมเมนตัมของทีมให้หายไป แต่มันพูดถึงความกังวลของแฟนบอล ที่เราสามารถรู้สึกได้
แฮร์รี เคน มีปฏิกิริยาอย่างไรต่อเรื่องทั้งหมดนี้ เพราะตอนนี้กองหน้าตัวหลักของทีม ตัดสินใจที่จะไม่ตอบกับสื่อ และคำตอบคือไม่มีใครรู็
นี่ไม่ได้หมายถึง การทะเลาะกับนักข่าว เป็นที่น่าสังเกตเพราะมันไม่ใช้นิสัยของ เคน ที่มักจะแสดงความคิดเห็นก่อนหรือหลังการแข่งขันในทุกฤดูกาล นับตั้งแต่เขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาจนถึงตอนนี้ โดยพื้นฐานแล้วเขาเป็นคนดีที่แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ก็เต็มใจที่จะมีส่วนร่วมกับผู้สนับสนุนผ่านสื่อ ซึ่งเป็นการแสดงแแรคเตอร์ที่ดีเสมอ
แต่ตอนนี้ไม่เป็นเช่นนั้น อีกต่อไป เคนหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับสื่อ ตั้งแต่ช่วงพักเบรคทีมชาติในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งหายากสำหรับกัปตันทีมชาติอังกฤษ และเรื่องนี้มันเป็นเหมือนการเปิดแผล ว่าสเปอร์สตอนนี้ไม่เหมือนเดิม มานานแล้ว การเข้าถึงนักข่าวถูกขัดขวางโดยการแพร่ระบาดของโควิด แต่นั่นไม่ใช่ข้อแก้ตัวของเคน เป็นความจริงหรือไม่ ที่เขาต้องเลิกซ่อนตัวในช่วงพักเบรคทีมชาติที่กำลังจะมาถึงนี้
เป้นไปไม่ได้ ที่จะปฏิเสธถึงความสงสัยที่ว่า เคน ไม่อยากอยู่ในสปอตไลต์ เขาเลยไม่ต้องการเจอกับคำถามที่เขาอาจจะตอบได้ยาก หรือเพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้น คือคำถามเฉพาะ หลายคนพยายามขอเขามาระยะหนึ่ง และตอนนี้เป็นเหมือนเรื่องเร่งด่วน และรู้สึกกดันมากข้น เขาเชื่อหรือไม่ว่าเขาต้องออกจากสเปอรืส เพื่อบรรลุเป้าหมาย ก่อนที่เขาจะอายุครบ 28 ปี ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้
เคน ไม่ได้มีไว้ขาย นี่คือคำยืนยันของสโมสร นอกจากนี้ ดาเนียล เลวี ประธานบริหาร ต้องรับผิดชอบ สัญญาที่จะมีถึงปี 2024 ข้อตกลงกับเลวี่ แต่ละคนต้องเจรจาแทบลากเลือด ทุกคนทราบดี แต่อย่างน้อยที่สุด เคนตอนนี้มีเรื่องที่ต้องคิดมากมาย หลังจากที่เขาต้องเล่นตลอด 120 นาที และสุดท้ายก็มาพ่ายในช่วงต่อเวลาพิเศษ ของยูโรป้า ลีก ด้วยน้ำมือของ ดินาโม ซาเกร็บ เมื่อคืนวันพฤหัสบดี และโชเซ มูรินโญ ก็อยู่ในเรือลำเดียวกัน
มีเหตุผลที่มูรินโญ มักจะเป็นคนแรกที่จะโดนวิจารณ์เสมอ เมื่อยามที่ทีมเจอกับวิกฤตเสมอ เพราะเขาคือคนที่กำหนดผลลัพธ์ และมองว่าเรื่องนี้คือสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุด มูรินโญ สามารถเสกแชมป์ให้ทุกสโมสรที่เขาคุม และเมื่อสำเร็จเขาก้จากไป เขาไม่เคยสร้างแผนระยะยาว โดยเฉพาะกับดาวรุ่ง เพราะส่วยใหย่หลายคนถูกปล่อยยืม
แผนการของแต่ละเกม ออกแบบมาเพื่อให้ชนะ เป้นอันดับหนึ่ง และเรื่องความสนุกเป้นแค่ลำดับสองเท่านั้น แม้จะมีตามเลือกมากมาย แต่มูรินโญ จะวิเคราะห์เกม อย่างเฉียบคม เขาไม่สนใจเรื่องสถิติการครองบอล หรือพื้นที่ที่ต้องสู้ หรือ โอกาสการทำประตู สำหรับเขาแล้วทุกอย่างอยู่ที่ดอกาสที่สร้างขึ้น ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไป ถ้าทีมของเขาสามารถทำได้ครั้งหรือสองครั้งในช่วงเวลาที่เหมาะสม และในทางที่มันต้องเป้นประตู
ดังนั้นเมื่อทีมไมได้ผลการแข่งขัน มูรินโญ ก็ไม่ยอมเปลี่ยนทัศนคติ และมันเกิดขึ้นเหมือนกับเกมที่ซาเกร็บ รวมถึงเกมดาร์บี้ กับอาร์เซนอล ที่พวกเขาแพ้มาเมื่อวันอาทิตย์ มันทำให้เกิดคำถามว่าถึงทางตันแล้วหรือเปล่า
ในคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่าน เคน ยังคงเงียบ แต่กัปตันทีมอย่าง ฮูโก้ โยริส เลือกที่จะไม่ เขาเปิดเผยถึงความผิดหวังในการสัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมากับ BT Sport และมีสองสิ่งที่โดดเด่น เรื่องแรกก้คือข้อความของมูรินโญ ที่พูดถึงเกมรุกของ ดินาโม ที่ไม่ยอมหยุดหลังจากที่แพ้มา 0-2 ในเลกแรกมันชัดเจน “อย่างไรก็ตามมันกลับตรงกันข้าม” โยริส อธิบาย และเรื่องที่สองคือนักเตะส่วนใหญ่ ที่ไม่ได้อยู่กับทีม ซึ่งไม่ทุ่มเททั้งหมด เป็นเพราะพวกเขา ไม่ใส่ใจ
มันส่งผลให้ขาดความสามัคคี ที่เป็นอันตราย หลายคนไม่พูดตรงๆ ตรงนี้ และคำพูดของมูรินโญ หลังเกมอาร์เซนอล และความรับผิดชอบให้กับนักเตะตัวหลักเพียงไม่กี่คน
“มาที่หน้ากล้องแล้วพูดว่า “ผมมีความกะหาย” โยริสกล่าว “อีกอย่างคือต้องแสดงให้เห็นทุกวันในการฝึกซ้อมและทุกครั้งที่อยู่ในสนาม หากคุณเพิ่งได้ดูทีม เมื่อคุณเป็นตัวจริง คุณกำลังทำให้ทีมมีปัญหามาก เพราะคุณต้องโดนลงโทษ เรามีช่วงเวลาที่ดีในอดีต เพราะเราสามารถพึ่งพาความเป็นหนึ่งของทีมได้ แต่ตอนนี้ยังไม่แน่ใจ”
“ตัวสำรองต้องมีอิทธิพลมากกว่านี้ ในการกดดันตัวจริง สิ่งเดียวกันนี้ต้องเกิดขึ้น ในการซ้อม เมื่อถึงเวลาทุกคนต้องพร้อมช่วยทีม ไม่ใช่นั่งร้องไห่ ข้างสนาม มันไม่เพียงพอ”
เป็นเรื่องที่น่าหนักใจอย่างยิ่ง ที่จะเชื่อว่า ข้อความของมูรินโญ จะไม่เข้าหู เพราะนักเตะไม่สนใจหรือไม่ต้องการฟังมัน พวกเขาไม่ต้องการเล่นเพื่อโค้ช เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นมีเพียงสิ่งเดียวที่จะเกิดขึ้น
การจัดการทีมเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการเป็นตัวจริง และมันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม เมื่อตัวสำรองสามารถสอดแทรกได้ ยกตัวอย่าง โธมัส ทูเคิล ที่กำลังมีความสุขกับเชลซี เมื่อ เอเมอร์สัน พัลเมรี ยิงประตูในนาทีที่ 89 ของเกมที่พวกเขาชนะในแชมเปี้ยนส์ลีก เหนือทีมอย่าง แอตเลติโก มาดริด เมื่อคืนวันพุธ ทุกคนต้องมีแรงจูงใจในตัวเอง แต่ผู้จัดการคือคนที่เป็นคนกระตุ้น
สเปอร์สต้องเล่นกับ แอสตัน วิลล่า ในพรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์ แต่ มูรินโญ มีเกมคาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 25 เมษายน ในตารางของเขา เขาจะได้แชมป์อีกครั้ง หากเขาชนะ อย่างไรก็ตามตอนนี้ดูไม่น่าเป็นไปได้ จะเพียงพอหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสโมสรไม่ได้เล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง
มันทำให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น แฮร์รี เคน และ ซน ฮึง มิน ยังไม่ได้ต่อสัญญาฉบับใหม่ เลวี และคนอื่นๆ ต้องการมากกว่านี้
ขณะที่โจ ฮาร์ท ประตูตัวสำรอง ต้องถูกบังคับให้ขอโทษ หลังจากที่พลาดโพสต์ไอจี ยินดีกับทีมในอินสตาแกรม ที่เขาใส่รูปอีโมจิ ปรบมือ หลังจากที่แพ้ ดินาโม 0-3 พร้อมพูดว่า งานสำเร็จแล้ว มันจบง่ายขนาดนั้นเลยหรือ
