การเผชิญหน้ากับ พานาธิไนกอส ในเดือนพฤศจิกายน เด็กหนุ่มจากอาร์เจนไตน์ เพิ่งมีประสบการณ์บอลยุโรปเพียงแค่สี่นัด ในการแข่งขันที่สูงที่สุดในยุโรป และเขาก็ได้ประเดิมสนามด้วยการพ่ายต่อชัคตาห์ โดเนสต์ ไปแบบสุดช็อค 0-2 และได้เป็นตัวจิงนัดเดียวในเกมในเกมกับ อูดิเนเซ่
ดาวรุ่งรายนั้น ได้ลงสนามในฐานะตัวสำรองในการเอจกับ แวร์เดอร์ เบรเมน และ ที่การเจอกับทีมจากกรีก เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลงสนาม
แฟรงค์ ไรจ์การ์ด คือกุญแจสำคัญ
แม้จะทำประตูไม่ได้ในเกมเหล่านั้น ตแมันก็ชัดเจนสำหรับหลายคนว่านี่คือสุดยอดนักเตะมากพรสวรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่แฟรงค์ ไรจ์การ์ด ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดของบาร์เซโลนา ที่ได้เล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก
เมสซี ยิงประตูสร้างชื่อให้กับตัวเองในช่วงก่อนหน้านี้ ในเกมที่เจอกับ อัลบาเซเต้ ในลาลีกา แต่นี่คือคือรายการที่ยิ่งใหญ๋ที่สุด
กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์กล่าวขอบคุณไรจ์การ์ด ผ่านสื่อสำหรับการให้โอกาสครั้งแรกกับเขา ในทีมชุดใหญ๋ และในแชมเปี้ยนส์ลีก แต่ เฮงค์ เทน คาต ได้แสดงความคิดเห็น ในหนังสือของ เมสซี ที่เขียนโดน กิเยม บาลาก ว่าไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะแจ้งเกิดได้ จากการลงสนามครั้งแรก ในเกมอุ่นเครื่องกับ ปอร์โต้ ในปี 2003
“ดูเหมือนว่าเขาจะเล่นกับพวกเรามาตลอดทั้งชีวิต การเคลื่อนที่ของเขาเป็นธรรมชาติมา” เขาอธิบาย “ครั้งแรกที่เขาได้บอล เขาสร้างโอกาสทำประตูได้เลย ครั้งที่สองเขาก็เกือบยิงได้ ถ้าคุณอายุ 15 หรือ 16 ปี และต้องเจอกับ ปอร์โต้ ในการเปิดสนามใหม่ที่เต็มไปด้วยแฟนบอล และคุณสามารถทำทั้งหมดนั้นได้ แสดงว่าคุณสุดยอดมาก แฟรงค์ ไรจ์การ์ด กับผมมองหน้ากัน และพูดว่า อะไรวะเนี่ย คุณเห็นไหม?”
เมื่อเกมดำเนินไป เป็นที่ชัดเจนว่า เมสซี ทำผลงานได้เพอร์เฟคต์ และแจ้งเกิด ขณะที่ มาร์ค ฟาน บอมเมล ทำประตูหลังจากเขี่ยลบอลมาได้แค่ 50 วินาที ด้วยการยกบอลข้ามหัวผู้รักษาประตู และตามมาด้วยการโหม่งอย่างแม่นยำของซามูเอล เอโต้
เมสซี กลายเป็นรายต่อไป ที่เขามาอยู่ในสปอตไลท์ หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง
ประตูแรกของเขาในแชมเปี้ยนส์ลีก
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินา ได้รับการยกย่องจากความสามารถของเขา ที่สามารถทำลายแนวรับในพื้นที่แคบ รวมถึงทักษะในการเล่นบอล ด้วยความตระหนักรู้และวามสามารถนั้นชัดเจนตั้งแต่ช่วงแรกของกรเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
ประตูแรกของเขา ในการแข่งขันเริ่มจากจังหวะที่ เมสซี ไปช่วยเอโต้ การกดดัน จนทำให้กองหลังของพานาธิไนกอส พลาด และชนกัน ขณะที่ทั้งคู่ มองหาโอกาสการสร้างประตู ด้วยสัญชาตญาน
พวกเขาพลาดอย่างชัดเจน และปล่อยบอลเบาเกินไปให้ผู้รักษาประตูอย่าง มาริโอ กาลิโนวิช ที่พยายามออกมาปิดมุม และป้องกันให้ไม่ให้เมสซียิง
พูดตรงตรง ผู้รักษาประตูไม่คิดหรอกว่าเด็กคนนี้จะแสดงทักษะที่เขาทำมาหลายปี เขาปิดทางพลาด และเมสซี เลือกที่จะยกบอลข้ามตัวนายทวารชาวโครแอต และจิ้มบอลข้ามเส้นไปก่อนที่กองหลังจะเคลียร์มันออกจากเส้น
การแสดงท่าดีใจของเมสซี
การแสดงท่าดีใตจของเมสซี เต็มไปด้วยคนที่ยินดีกับเขา เขาหันหน้าไปหาแฟนบอลด้วยความสุขและต่อยไปในอากาศ ก่อนที่โรนัลดินโญ และ เอโต้ จะมาร่วมยินดี
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีความแปลกใจเลย ที่ดาวรุ่งรายนี้จะทำประตูแรกในแชมเปี้ยนส์ลีก ที่พวกเขาหวังว่าจะได้เล่นมาตลอดชีวิต
เมสซีมีความมุ่งมั่นและสแดงให้เห็นว่าเขาใส่เต็มที่กับบาร์เซโลนา เนื่องจากเขาทำมาหลายครั้งตลอดอาชีพการค้าแข้งของเขาจนถึงช่วงซัมเมอร์
เขารวมกับเพื่อนร่วมทีมสามรายในแดนหน้าในการยิงประตูที่ดีให้บาร์เ.โลนา ก่อนจบเกมด้วยการแอสซิสต์ให้ เอโต้ ยิงประตูอย่างสวยงามและเป็นแฮตทริกของกองหน้าชาวแคเมอรูน
เมสซีไม่ได้เริ่มต้นด้วยการยิงประตูอย่างต่อเนื่อง ในแชมเปี้ยนส์ลีก จนกระทั่งสองฤดูกาลต่อไป เมสซีก็ได้รับบาดเจ็บจากเกมกับเชลซี ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนที่บาร์เซโลนา จะไปเอาชนะ อาร์เซนอล ในรอบชิงชนะเลิศ
ตัวอย่างของสิ่งที่กำลังจะมา
ในทางกลับกัน เกมกับพานาธิไนกอส กลายเป็นภาพรีวิว ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น แม้ว่าจะมีไม่กี่คนที่คาดเดาได้ว่าเขาจะเก่งขนาดไหน
แต่ประตูแรกยังทุกจดจำในใจ และประตูที่ 100 ที่เขาทำได้ยังเป็นการเจอกับทีมอย่างโอลิมเปียกอส คุ๋ปรับในกรีซ
ก่อนที่เขาจะเจ็บในเกมกับเชลซี เมสซีได้ แสดงให้เห็นว่าเขาทำอะไรได้บ้างในลาลีกา ในขณะที่เขามีส่วนแอสซิสต์ ในเกม เอล กลาซิโอ ทำสองประตูใน 17 นาทีในฐานะตัวสำรองในเกมกับ เรอัล มายอร์ก้า และ ทำประตูชัยในเกมกับ แอธเลติก บิลเบา
นักเตะที่ยิ่งใหญ่มากมาย ที่ได้แสดงความสามารถในช่วงหลายปีที่ผ่านมาด้วยเหตุผลดีๆ ด้วยความเคารพ และการยกย่อง ประตูแรกของแชมเปี้ยนส์ลีก