มักจะมาให้กำลังใจทีมรักเสมอ เพื่อดูทีมของพวกเขาเล่นในทุกๆสัปดาห์ ด้วยความรัก และความเกลียดชังต่อ เคราร์ด ปิเก้ ที่มีมากกว่านักเตะคนอื่นๆ เขาเล่นให้กับ บาร์เวดลนา เขาคือชาวกาตาลัน ที่มีความสุข เขาหยิ่งผยอง เขาพูดตรงไปตรงมาๆ เขาเป็นเหมือนพระเอกในหนังสือการ์ตูน เขาคือพื้นฐานของทีมอย่างก็ตาม มีอยู่คืนหนึ่ง ที่ เบร์นาบิว ส่งเสียงยกย่อง เพื่อปิเก้
เราทุกคนรู้ว่า สเปน คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ในปี 2010 แต่พวกเขาเพิ่งได้แชมป์ยุโรป ในปี 2009 และยังได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ที่แอฟริกาใต้ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ขึ้นมาเป็นโค้ชคนใหม่ และพวกเขาต้องอยู่ในสายที่หนักพอสมควร หลังต้องเจอกับทั้ง เบลเยียม, ตุรกี, บอสเนีย แอนด์ เฮอร์เซโกวีนา
หลังออกสตาร์ทด้วยชัยชนะทั้ง 4 นัด 2 แมตช์ต่อไป พวกเขาต้องเจอกับ เบลเยียม และ บอสเนีย ในวันที่ 28 มีนาคม 2009 ขุนพล ลา โรฆา ต้องเผชิญหน้ากับ สามคู่ต่อกร ที่เบร์นาบิว
ปิเก้ คืออตัวหลักของกวาร์ดิโอลา ในปีแรกที่ บาร์ซา
การจัดการแข่งขันที่แปลกๆ สเปน ต้องเจอกับ ตุรกี 2 ครั้ง ภายใน 4 วัน นัดแรก ที่บ้านของเรอัล มาดริด ในคืนวันเสาร์ ในเวลานั้น ปิเก้ ไม่เคยลงสนามให้กับทีมชาติเลย แต่หลังจากที่ย้ายมาจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2008 เขากลายเป็นตัวหลักเคียงข้างกับ การ์เลส ปูโยล ในแผงแบ็คโฟร์ ของเป็ป กวาร์ดิโอลา ที่บาร์ซา
มันเพิ่งเป็นปีแรกของกวาร์ดิโอลา ในการเริ่มต้นโปรเจคต์ และเขาก็ได้ยกระดับดีขึ้นเรื่อยๆ ที่คัมป์ นู สำหรับ พลพรรค อาซูลกรานา
ปิเก้ กลายเป็นคนสำคัญ และได้โอกาสติดทีมชาติสเปนครั้งแรก ในเกมอุ่นเครื่อง กับ ทีมชาติอังกฤษ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2009 ก่อนจะช่วยให้ทีม ชนะไป 2-0 ที่ รามอน ซานเชซ ปิซฆวน ของเซบีญา โดยเกมนั้น เขาได้โอกาสลงสนามแทนที่ปูโยล ที่มีอาการบาดเจ็บ จากจังหวะปะทะ
ด้วยวัยเพียง 22 ปี เขาได้เริ่มต้นด้วยการจับคู่กับ ราอูล อัลบิโอล ที่ยืนเป็นกองหลังฝั่งซ้าย โดยมีเซร์คิโอ รามอส ในตำแหน่งแบ็คขวา และ โจน กัปเดบีญา ยืนอยู่อีกฝั่ง โดยทั้งหมดยืนอยู่หน้า อิเกร์ กาซิยาส ที่รับบทบาทผู้รักษาประตู
เกมนี้ถือเป็นเกมที่ สำคัญ ตุรกีของ ฟาติห์ เตริม มีความแข็งแกร่งและคุณภาพ พวกเขาแสดงให้เห็นในยูโร 2008 ครั้งที่ผ่านมา หลังผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ซึ่งในทัวร์นาเมนต์นั้น พวกเขาชวดโอกาสผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ไปเจอกับสเปน สเปนในเวลานั้นพยายามปลดล็อคตัวเอง หลังมีปัยหามากมายเกิดขึ้น ปิเก้ และเพื่อนในแนวรับ ไม่ได้ทำอะรไมากนัก เพราะส่วนใหญ่ ตุรกี จะพยายามสาดบอลยาวมาข้างหน้า แต่ถึงกระนั้น ปิเก้ ก็ได้แสดงแคแรคเตอร์ ออกมา
เกมนั้น สเปนได้ ฟรีคิกบริเวณ กรอบเขตโทษฝั่งขวาของตุรกี ในนาที 59 โดยี ซาบี ยืนอยู่ที่บอล เคียงข้างกับ เซร์คิโอ รามอส แต่ รามอส เข้าหาบอลไม่ได้ แต่เป็นปิเก้ ที่เข้ามาถึงบอล
มันอาจจะไม่ช่ประตูที่สำคัญ มันอาจจะเป็นหนึ่งในประตูที่ง่ายที่สุดที่เขาทำได้ แต่มันก็มาในเวลาที่เหมาะสม และลูกนั้น ก็ผ่านตัวของ โวลคาน เดมิเรล เข้าประตูไป และทำให้ แฟนบอลทั่วทั้ง เบร์นาบิว ได้เฮกันลั้น “มันตกมาตรงที่ผมอยู่ และ ผมก็แค่แปให้เข้าไป” เขาพูดหลังจากยิงประตูได้ ในเกมกับตุรกี
แฟนบอลทั่วทั้ง เบร์นาบิว เริ่มตะโกนชื่อของเขา ที่สเปน ไม่มีสนามกีฬาแห่งชาติ
โดยไม่มีสนามไหนเป็นสนามหลักของทีมชาติสเปน ไม่มีสนาม แบบเวมบลีย์ หรือ สต๊าด เด ฟร็องซ์ พวกเขาเดินทางไปทั่วประเทศ เมืองแล้วเมืองเล่า เพื่อให้ ขุนพล ลา โรฆา ได้แสดงให้คนทั่วทั้งประเทศได้เห็น
เมื่อสเปน เดินทางมาแข่งขันที่เมือง เหล่าบรรดา สมาชิกของสโมสร และผู้ถือตั๋วปีของแต่ละสนาม ย่อมต้องซื้อตั๋วเข้าไปชมเกมดังกล่าว ซึ่งพวกเขาเหล่านั้น จะได้สิทธิ์ซื้อก่อนคนอื่นๆ หรือ ได้รับส่วนลดควบ๕ไปด้วย ดังนั้นทุกเกมของสเปน บนแผ่นดินสเปน ต่างมีรสชาติที่แตกต่างกัน แฟนบอลส่วนใหญ่ที่เข้าชมเกมที่ เมสตายา ก็เป็นแฟนบองบาเลนเซีย และถ้าไปเล่น ที่ เบนิโต้ บียามาริน ก็เป็นแฟนบอลเรอัล เบติส เป็นส่วนใหญ่ และถ้าพวกเขาไปเล่นที่เบร์นาบิว นั้นก็แปลว่า ส่วนใหญ่จะเป็นแฟนบอลของมาดริด
และเมื่อปิเก้ ทำประตูใส่ตุรกีได้ ก็ทำให้คลื่นของความสุข เอ่อล้นไปทั่วเบร์นาบิว คนส่วนใหญ่ มักเชียร์ให้ทีมทำประตูให้ได้ ต่อให้คุณจะเป็นแฟนบอลเรอัล มาดริด ก็ตาม เมื่อ สเปน ต่อบอลอย่างงดงามหลังทำประตูได้ แฟนบอลของ มาดริด ก็พร้อมจะตะโกน โอเล่ โอเล่ โอเล่ ไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจอะไร
ประตูของปิเก้ ช่วยให้ทีมชนะในเกมนี้ มันจบลงด้วยผล 1-0 และนั่นหมายความสเปน มีโอกาสที่จะได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2010 เพราะด้วยสถานการณ์หลังผ่านคืนนั้นไป พวกเขามีแต้มนำอันดับ 2 อย่างบอสเนีย เป็น 6 คะแนน และพวกเขาก็ขยับเข้าใกล้ แอฟริกาใต้ เข้าไปอีก หลังบุกไปชนะ ตุรกี ถึงอิสตันบูล ด้วยสกอร์ 2-1 ในอีก 4 วันต่อมา และเกมนั้นปิเก้ ก็ได้ลงสนาม 90 นาทีเต็ม
นั่นเพียงพอที่จะทำให้สเปน ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก และแน่นอน ว่าสเปน ก็คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครอง โดยระหว่างรอบคัดเลือก ปิเก้ ยิงไปมากกว่า 2 ประตู ในเกมที่ เจอกับ เบลเยียม และ บอสเนีย และช่วยให้ทีมชาติของเขาคว้าตั๋วไปลุยรอบสุดท้าย พร้อมยึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างต่อเนื่อง และ ก็เริ่มมีเพลงประจำตัวเขาออกมา เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ที่เบร์นาบิว เริ่มเกลียดเขามากขึ้นเรื่อยๆ แต่พวกเขาก็ยังสุภาพ ในการปรบมือ และร้องเพลงของเคราร์ด ปิเก้ ที่เบร์นาบิว
โดยวิธีการคือ การพูดชื่อเต็ของเขา พร้อมด้วยชื่อของปู่เขา อย่าง โจอัน ปิเก้ และ นามสกุล แม่ของเขา อย่าง มอนต์เซร์ราต นั้นแปลว่า ปิเก้ มีสายเลือดของ เบร์นาบิวอยู่ในตัว และได้รับความรักจากสนามกีฬาแห่งนั้น และนั่นคือคืนหนึ่งในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ทีพ่วกเขาเจอกับ อิตาลี มันเป็นคืนที่ปิเก้ มีเพลงของเขา ที่เบร์นาบิว