แมนฯยูไนเต็ดในช่วงเวลาที่เหลือ ต้องพยายามเอาชนะให้ได้ทุกนัด ใส่ใจทุกรายละเอียด ซึ่งความคิดเห็นของคีน แม้อาจจะดูโอเวอร์ แต่เขาก็ไม่ได้ผิดอะไร ที่ผ่านมาโอเล่กุนนาร์ โซลชา ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในการยกระดับทีมที่ดูหมดลุ้นไปทุกอย่าง กลับมามีลุ้นอีกครั้ง แต่การกลับมาเมื่อวันศุกร์ ทำให้หลายคนเริ่มสงสัยอะไรมากมาย แต่อย่างไรก็ตาม มันอาจจะถึงเวลาแล้วที่เขาต้องวิเคราะห์ และตรวจดูสภาพทีมตอนนี้
ดาบิด เด เกอา ถือเป็นนักฟุตบอลที่ฟอร์มสม่ำเสมอที่สุด นับตั้งแต่ เฟอร์กี้วางมือไป และตลอดช่วงที่ผ่านมา เจ้าตัวก็รับงานหนักมานานหลายปี ในการทำให้ทีมยังอยู่อันดับที่ดีในตารางคะแนน เขาพลาดโอกาสที่จะย้ายไป เรอัล มาดริด ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายฤดูกาล 2015-16 ซึ่งมันกลายเป็นเรื่องตลกของแฟนบอลจนถึงวันนี้ แต่ตอนนี้ฟอร์มของเขาดร็อปลงอย่างปฏิเสธไมได้ และมันเป็นเวลา 2 ปี ที่ถือว่ามาก
มันยากที่จะเข้าใจว่า ผู้เล่นคนนั้นจะมีความสุขมากที่สุด กับการเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017-18 จะฟอร์มตกลง
แฟนแมนฯยูไนเต็ด อาจจะไม่คุ้นชินกับภาพแบบนี้ เรื่องดังกล่าวมันคล้ายเคียงกับภาพเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพราะดีน เฮนเดอร์สัน ประตูวัย 23 ปี ที่แมนฯยูไนเต็ด ปล่อยให้ทีมอื่นยืม เซฟครั้งแล้วครั้งเล่า ออกจากเส้นประตูมาจับบอลกลางอากาศ และยังเป็นผู้รักษาประตูที่เก็บคลีนชีตได้มากที่สุดในตอนนี้
มันเป็นสถานการณ์ที่อึดอัดสำหรับ ผู้จัดการทีม เพราะ เด เกอา ยังไม่ได้แก่เกินไปสำหรับการเป็นผู้รักษาประตู และ ในระบบเศรษฐกิจใหม่ ถือว่าเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับรายได้สูงที่สุด และไม่มีสโมสรไหนที่จะจ่ายเงินระดับนี้ได้ แต่พวกเขาทำได้ ถ้ามีการย้ายทีมก็คงมีมูลค่าที่สูง และต้องรอจังหวะที่แมนยูไนเต็ด ใส่ชื่อของเขาลงในตลาดซื้อขายนักเตะ
ด้วยสถิติที่ไม่ดีของ เด เกอา ฤดูกาลนี้ ขับให้ เฮนเดอร์สัน ดูโดดเด่นขึ้น สำหรับฤดูกาลนี้ โดยตัววิเคราะห์ที่ชี้วัดฟอร์มการเล่นของประตู ก็คือ การป้องกันลูกที่ตรงกลาง ซึ่งเด เกอา ทำไปได้ 0.7 (ทุกสถิติจาก Statsbomb) ซึ่งมันเป็นการคาดการณ์ว่าประตูนี้ควรเข้าประตู ซึ่งตัวเลขดังกล่าวถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำมาก
ยกตัวอย่างง่ายๆ คือลูกในลักษณะการแท็บอิน 5 หลาย ที่มีโอกาสเป็นประตูสูง แต่หากคนยิงไม่พลาดในจังหวะเข้าฮอร์ส ผู้รักษาประตูจะต้องเซฟได้
จังหวะเหล่านี้หากเสียไป จะไม่ถูกนำมาวิเคราะห์ และโทษว่าเป็นความผิดพลาดของประตู เพราะมันเป็นจังหวะที่มีโอกาสเป็นประตูสูงมาก แต่ขณะที่จังหวะยิงชนิดที่ลูกจะเสียบสามเหลี่ยมบน ก็จะไม่ถูกนับว่ามีโอกาสเป็นประตูสูง (นั่นคือสาเหตุ) แต่เนื่องจากจังหวะการเซฟแบบสุดยอด มันจะถูกวิเคราะห์ว่าเป็นการเซฟลูกยากได้
ในทางกลับกัน เฮนเดอร์สัน มีค่าเฉลี่ย เซฟลูกยากสูงมาก หลังมีค่าเฉลี่ยสูงถึง 6.7 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ก็มีปัจจัยอื่นๆที่จะถูกนำมาวิเคราะห์เช่นกัน เช่นการเฝ้าเสาในโอลด์ แทร็ฟฟฟอร์โ ในช่วงต้นฤดูกาลนี้ เขาพลาดในเกมกับลิเวอร์พูล จนทำให้เฮดโค้ชปวดสมอง และเขายังพลาดในเกมกับ นิวคาสเซิล ในประตูที่ 2 และทำให้ ดาบคู่ต่อเสียประตู และอีกเล็กน้อยในการเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ
และการเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่นัดแรกของเฮนเดอร์สัน มันไม่ได้ไกล และมันสามารถช่วยได้ ว่าเขาพร้อมแล้วสำหรับเวทีใหญ่กับ แมนยูไนเต็ด
นอกจากนี้ เฮนเดอร์สัน ยังมีความแม่นยำในการเตะลูกจากประตู ที่แม่นยำสูงถึง 95.8 เปอร์เซ็นต์ นอกจากการเตะแล้ว การขว้างบอลก็มีความแม่นยำถึง 76 เปอร์เซ็นต์ ซ฿งถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง แตกต่างจากเด เกอา ที่เตะระยะ 40 หลา แม่นยำเพียงแค่ 34.3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมันสำคัญมาก สำหรับผู้รักษาประตูยุคใหม่ ที่จะต้องสามารถตั้งเกมรุกจากด้านหลังได้เลย
การเตะจากหน้าปากประตู มันไม่จำเป็นต้องมีแบบเดียว อย่าง อลิสซอน เบคเกอร์ ก็มีเปอร์เซ็นต์วางบอลยาวที่แม่นยำ 52.4 เปอร์เซ็นต์ในฤดูกาลก่อน แต่เขามีอัตราความแม่นยำฤดูกาลนี้อยู่ที่ 49.7 เปอร์เซ็นต์ โดยมที่ เฮนเดอร์ สัน มีอัตราแม่นยำอยู่ที่ 28.7 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งทั้ง เด เกอา และ เฮนเดอร์สัน ต่างไม่ได้มีความสามารถในการออกไปตัดบอลดีเท่าหร่ โดยตลอดฤดูกาล เด เกอา ทำไปเพียง 10 ครั้ง ในการออกไปตัดบอลนอกเขตโทษ ขณะที่ เฮเนเดอร์สัน ก็ 13 ครั้ง ไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่
และการหยุดลูกครอสในกรอบเขตโทษ เด เกอา ทำได้ 9 จาก 226 ครั้ง ส่วน เฮนเดอร์สันก็ค่อนข้างใกล้เคียงที่ 17 17 ครั้ง จาก 216 ครั้ง
แต่สิ่งที่น่าประทับใจคือ เฮนเดอร์สันยังหนุ่ม และฟอร์มของเขาก็ดีขึ้น นับตั้งแต่ฤดูกาล 2017/18 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของ เด เกอา ที่เราต้องนำมาเปรียบเทียบกับฤดูกาลนี้ก็เพราะ มาตรฐษนที่เขาต้องทำให้ได้ ถ้าเขาจะเป็นเบอร์ 1 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โดยฤดูกาลนั้น เด เกอา มีจังหวะเซฟลูกยากสูงถึง 12.4 การเตะจากหน้าปากประตู แม่นยำ 84.5 เปอร์เซ็นต์ และการผ่านบอลแม่นยำ 52.3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นตัวเลขในยุคของโชเซ่ มูรินโญ
บางคนเชื่อว่า เฮนเดอร์สัน พร้อมจะทำในแบบที่เด เกอา เคยทำได้ แต่หลายคนก็ยังกังวลว่ามันจะไม่เกิดขึ้น
โรเบิร์ต ฟูลกุม นักเขียนนวนิยายชือดัง ทุกสิ่งที่ผมจำเป็นต้องรู้ ตั้งแต่ผมเรียนในระดับอนุบาล ทุกคนพูดเสมอ ว่า หญ้าข้างบ้าน มักจะเขียวชอุ่มกว่าของเราเสมอ แต่มันไม่ใช่ความจริงเลย หญ้าที่จะสวยกว่าคือหญ้าที่ผ่านการรดน้ำ
แต่มันมีหลักฐานบ่งชี้ เมื่อดูจากสถิติของ เด เกอา ในการเป็นผู้รักษาประตูยุคใหม่ ในฐานะผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลุยส์ ฟาน กัล ได้เคยนำ ฟรานส์ โฮเอค ตำนานโค้ชประตู ที่พยายามสอนโกลให้มีความเป็น สวีปเปอร์ คีเปอร์ มากขึ้น อย่างที่เรารู็จักในวันนี้ ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆนี้ กับ Sky ซึ่งเขาได้พูดถึง ควาไม่พอใจต่อ เด เกอา ในการทำสิ่งเหล่านั้น
น่าเสียดายที่การวัดระดับผู็รักษาประตู สมัยฟาน กัล คุมทีมยังไม่สามารถนำมาใช้ได้ในฤดูกาลนั้น
แต่ด้วยหลักฐานทั้งหมดตลอด 2 ฤดูกาลหลัง ทั้ง เฮนเดอร์สัน และ เด เกอา อาจจะยังไม่ใช่โกลในอุดมคติ แต่ตอนนี้เก้าอี้ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นั้นมั่นคงแตกต่างจากช่วง 2-3 เดือนก่อน ทางออกที่ดีที่สุด คือการเรียกฟอร์มเก่งของ ดาบิด เด เกอา และส่ง เฮนเดอร์สัน ให้ทีมอื่นยืมตัวต่อไป พื่อให้เขาได้มีโอกาสเซฟในทุกๆนัด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการผู้รักษาประตูเหมือนในฤดูกาล 2017/18 พวกเขาต้องการประตูที่เป็นหนึ่งในโกลที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก
เราต้องระวังประวัติศาสตร์ ต่างๆที่เกิดขึ้นในโลกฟุตบอล เดวิด โกลด์บลัตต์ นักสังคมวิทยา พูดถึงผู้รักษาประตู เมื่อเขียนหนังสือร่วมกับ โจนาธาน วิลสัน เกี่ยวกับประวัติของผู้รักษาประตู ที่มักจะตกเป็นแพะรับบาทมากกว่าผู้เล่นในตำแหน่งเอาท์ฟิลด์
เด เกอา เริ่มกลายเป็นแพะรับบาปในตอนนี้ และต้องระวังอย่าเพิ่งประกาศว่า เฮนเดอร์สัน จะเข้ามาแทนที่ของเขา