มหานครปารีส กลายเป็นศูนย์กลางของโลกฟุตบอล ที่นี่ มีนักฟุตบอลระดับโลกกว่า 60 รายที่ผ่านการเล่นฟุตบอล 5 คน ชิงแชมป์โลก ซึ่งมากที่สุดจากทุกมุมโลก จากปารีส มีนักฟุตบอลจำนวน 8 คนที่อยู่ในชุดแชมป์โลกปี 2018 ของทีมชาติฝรั่งเศส อันประกอบไปด้วย ปอล ป็อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, แบลส มาตุยดี้, เบนฌาแมง เมนดี้ และ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ ที่ตอนนี้ถือเป้นความหวังของปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง ในแชมเปี้ยนส์ลีก
นั่งรถำฟจาก RER ไปทางตอนเหนือประมาณ 16 นาที ก็จะถึง Gare du Nord เพื่อทำความเข้าใจว่าทำไม เขตนี้ถึงมีนักฟุตบอลที่มีความสามารถสูงหลายคน จากนั้น คุณมาที่ Sarcelles บ้านของ ริยาด มาห์เรซ ที่ตัดสินใจเลือกเล่นให้กับทีมชาติแอลจีเรีย แต่เขาคือความภูมิใจของ อคาเดมี banlieues
สโมสรท้องถิ่นแห่งนี้ ได้สร้าง มาห์เรซ และคนอื่นๆขึ้นมาคล้ายเขา และภายใต้สถาบันลูกหนังชื่อดังอย่าง AAS Sarcelles ที่แห่งนี้จะเล่นฟุตบอลระหว่างตึกสองตึก ซึ่งมาห์เรซ เรียนรู้สเต็ป การเลี้ยงบอลจากที่นี่ และมีสกิลการคุมบอลที่น่าตื่นตาตื่นใจ จนทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมควักเงินจำนวน 60 ล้านปอนด์ ระหว่างต้นไม้ ใต้ม้านั่งสวรสาธารณะ และพื้นที่ว่าง นี่คือสถานที่ของเขา และเขายังคงเดินทางกลับไปที่ Sarcelles เพื่อเล่นฟุตบอลข้างถนน หรือที่ชาวบ้านมักเรียกว่า ballon sur bitume, ที่เรียกกันว่าฟุตบอลคอนกรีต แม้ตอนนี้เขาจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพแล้วก็ตาม
เกมเหล่านี้ จะมีคนท้องถิ่นเล่นบอลบนพื้นคอนกรีต อยู่ระหว่างตึกกับหอคอย ที่ยังสร้างไม่เสร็ต ตอนที่มาห์เรซเป็นเด็ก การแข่งขันค่อนข้างจะดุเดือด โดยปกติ พวกเขาจะเล่นกันแบบ 4-4 หรือ 5-5 เนื่องจากพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัด ballon sur bitume เป็นสนามเด็กเล่นของแชมเปี้ยน ที่ทำให้ฝรั่งเศส เข้าถึงรอบชิงฟุตบอลโลก และ ฟุตบอลยูโร ตั้งแต่ปี 1998 ได้มากกว่าทุกทีมบนโลกใบนี้
ส่วนหนึ่งของความมหัศจรรย์ การเล่นบอลข้างถนน มันเหมือนกับการทำโจทย์คณิตศาสตร์ แบบง่ายๆ นักเตะแต่ละคนจะมีส่วนร่วมกับเกม ในพื้นที่ขนาดเล็ก และจำนวนผู้เล่นที่น้อย ทำให้การต้องจ่ายบอลและสัมผัสบอลบ่อยกว่าการเล่นฟุตบอลตามปกติ พวกเขาจะมีเวลาเพียงเสี้ยววินาเท่านั้นเมื่อได้บอล และพวกเขาต้องตัดสินใจ ผ่านหรือเลี้ยง เพราะฝ่ายตรงข้ามนั้นพร้อมจะพุ่งเข้าหา เพราะนีคือเเกม ballon sur bitume ที่ทำให้ทักษะของทุกคนพัฒนา
มาฮามาดู โกรีย์ โค้ชของ US Torcy U-16 ทีมคู่ปรับของ Sarcelles ที่เคยมีปอล ป็อกบา อยู่ในทีมอธิบายว่า “ในการเล่น 4-4 หรือ 5-5 นักเตะแทบจะต้องสัมผัสบอลทุกๆ 4 วินาที ในขณะที่ ฟุตบอล 11 คน นักเตะจะมีเวลาเกือบนาที ที่ไม่ได้สัมผัสบอลเลย”
“มันทำให้เทคนิคพัฒนาอย่างมีคุณภาพ เมื่อเล่น 4-4 หรือ 5-5 และเหนือสิ่งอื่นใดสถานการณ์ 1-1 เมื่อนักเตะฝ่ายรุก ต้องพยายามเลี้ยงผ่านคู่ต่อสู้ และกองหลังก็ต้องพยายามหยุดเขา”
ร่างกายและจิตใจที่เติบโตมากับฟุตบอลข้างถนน เนื่องจากจำนวนผู้เล่นของฝ่ายตรงข้ามมีการเปลี่ยนแปลง นักเตะจะต้องเตรียมตัวพร้อมสำหรับเจอสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา และต้องตัดสินใจ โกรีย์ กล่าวว่า “คุณต้องพัฒนาความคิดให้มีความอิสระ เพราะไม่มีใครคอยบอกคุณ คุณแค่เล่น เล่น และก็เล่น คุณคือคนตัดสินใจทุกอย่าง”
การเล่น ballon sur bitume ไม่มีการกำหนดอายุ อาร์ฮาอุย อูลิด ผู้ช่วยโค้ชของ AAS Sarcelles กล่าวว่า “ผมสามารถเล่นกับคนอายุ 15 หรือ 16 ปีก็ได้ ตอนที่ผมอายุ 10 ขวบ มันทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น” การเล่นกับเด็กที่โตกว่า และมีคุณภาพมากกว่าทำให้เยาวชนของ Sarcelles จะได้ประโยชน์ในการพัฒนาตัวเอง และมันก็ขยายไปในวงกว้าง พวกเขาพัฒนาทักษะได้รวดเร็วขึ้น โดยการปะทะกับนักเตะที่มีอายุมากกว่า และช่วยเพิ่มโอกาส ในการก้าวไปเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
ในขณะที่ มาห์เรซ มีอายุเพียง 17 ปี สภาพแวดล้อมนี้จึงเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งสำหรับเด็กเล็กๆ เขาต้องดูแลตัวเองในการเล่น ballon sur bitum เพราะที่แห่งนี้ไม่มีผู้ตัดสิน
“ผู้เล่นอย่างมาห์เรซ เรียนรู้จากถนน เพราะว่าถ้าเขาไม่แข็งแกร่ง เขาก็อาจจะโดนสอยร่วงได้” อูลิด กล่าว
“คุณต้องเก่งจริง”
บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ได้จากการเล่นฟุตบอลข้างถนน เนหือสิ่งอื่นใจ วิธีการเล่นของนักเตะไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือพวกเขาต้องชนะ
ไม่เพียงแต่ที่ฝรั่งเศสเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์จากฟุตลอลข้างถนน แชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2014 อย่างเยอรมัน ก็มีนักเตะที่โตมาจากฟุตบอลข้างถนน
สิ่งเหล่านี้ มันทำให้เจอกับนักเตะที่แตกต่างจากนักเตะที่เติบโตมาจากระบบของบุนเดสลีกา และนักเตะสมัครเล่น ที่เล่นในระดับ ดิวิชั่น 4-6 วิทยาศาสตร์การกีฬาได้วิเคาาะห์ว่า การพัฒนาของนักเตะชุดแชมป์บอลโลกของเยอรมัน มันน่าทึ่งมาก เพราะด้วยอายุ หลายคนไม่ได้โตมากับทฤษฎีฟุตบอลจ๋า แต่นักเตะชุดแชมป์โลกหลายคนต่างเล่นฟุตบอลข้างถนน และไม่ได้โตมากับระบบโครงสร้าง เช่นเดียวกับ ทีมชาติหญิงของเยอรมัน ที่โตมาแบบไม่มีโครงสร้างและมีจำนวนมากกว่านักเตะที่โตมากับฟุตบอลบุนเดสลีกา
โลกของฟุตบอล นักเตะที่ดีที่สุด อาจจะเป็นคนที่ฟังคำสั่งโค้ช และพยายามเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยตัวเขาเอง
กีฬาข้างถนนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนานักกีฬา ซึ่งได้รับการยืนยันอีกครั้งโดยการวิเคราะห์ของ อคาเดมีพรีเมียร์ลีกในอังกฤษ เมื่อเอากลุ่มผู้เล่นสองกลุ่มมาเปรียบเทียบกัน กลุ่มที่ผ่านอคาเดมี พบว่าไม่ได้มีจำนวนการฝึกซ้อมที่แตกต่าง โดยกลุ่มแรกจะได้ข้อเสนอ 3 ปี เมื่ออายุ 16 และอีกกลุ่มที่โดนโละออกไปเมื่ออายุ 16
แต่การไม่ได้ฝึกซ้อมในสนามซ้อม มันแตกต่างอย่างหนึ่ง นักเตะที่ได้รับสัญญา ส่วนใหญ่เป็นคนที่เล่นฟุตบอลข้างถนน และใช้เวลาเล่นประมาณ สัปดาห์ละ 9 ชั่วโมง แต่คนที่อยู่ในระบบจะได้รับการซ้อมเพียงแค่ 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น
เวย์น รูนีย์ ก็เติบโตมาจากการเล่นบอลบนสนามยางมะตอบเล็กๆระหว่างรั่้วบ้านของเขา ใน คร็อก์เทธ ซึ่งเขาเล่าให้ฟังในภายหลงว่า “ทุกสิ่บที่ผมเรียนรู้มันมาจากเกมเล็กๆ” แท็คติกคือสิ่งที่ตามมาในภายหลัง แต่ 95 เปอร์เซ็นต์มาจากการเล่นในสมัยเด็ก
ในทางตรงกันข้าม ข้างนอกอคาเดมี สิ่งแยกนักเตะออกจากสโมสรที่ดีที่สุดก็คือการโดนโละออกไป หากการฝึกสอนมีโครงสร้างที่หนักเกินไปสำหรับเด็กที่เล่นกีฬา มันอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา และนักเตะจะไม่สามารถแก้ไขด้วยตัวเองได้ มีการแสดงให้เห็นว่า นักเตะที่เล่นฟุตบอลแบบไม่มีโครงสร้าง เขาจะกลายเป็นคนที่ฉลาดกว่าคนที่เล่นตามพื้นฐาน ความสามารถในการคาดการณ์และรับรู้สถานการณ์ระหว่างเกมและตัดสินใจได้อย่างถูกต้องแม้จะอยู่ภายใต้ความกดดัน
การเล่นกีฬาข้างถนน ยังอนุญาตให้นักกีฬาหยุดกลางคัน หรือเดินทางออกได้ การพัฒนาเยาวชนระดับสูงในสหราชอาณาจักรบอกว่า การมีชั่วโมงสะสมสูงเกินไป มีผลต่อความจูงใจ ในการฝึกโดยโค้ชบางครั้งมันเร่งรีบเกินไป จนทำให้นักเตะหมดรักกับกีฬาฟุตบอล
การทำให้คนฉลาด และเรียนรู้ได้รวดเร็ว ฟุตบอลข้างถนนมีส่วนช่วย และสำคัญมากกว่าเดิม และกลายเป็นอุตสาหกรรมมากขึ้น เพราะมันเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติ ความสนุกสนาน และมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อเกมฟุตบอลอาชีพ ที่ต้องซ้อมอย่างต่อเนื่อง ความสับสนวุ่นวายของการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน แบบไม่มีโครงสร้าง ทำให้ทุกคนพร้อมที่จะประสบความสำเร็จเมื่อเข้าไปอยู่ในโครงสร้าง นักฟุตบอลอาชีพหลายคนเติบโตจากฟุตบอลข้างถนน และมันก็ปลอดภัยเพียงพอในการเล่นที่ปารีส พื้นมีความเรียนขึ้น และทำให้การพัฒนารู้สึกง่ายขึ้น
ในบรรดานักเตะมากพรสวรรค์ ส่วนใหญ่มีจิตวิญญาณของนักฟุตบอลข้างถนน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่ลอนดอนใต้ ได้ผลิตนักเตะอย่าง จาดอน ซานโช, โจ โกเมซ และ รีส เนลสัน ทั้งหมดเป็นผลผลิตจากฟุตบอลคอนกรีต ซึ่งคล้ายกับที่ปารีส
ซานโช เล่าว่า “มันเป็นจุดเริ่มต้นของพวกเขา ฟุตบอลข้างถนน” ทุกคนแค่แสดงออกมา และนั่นคือวิธีที่ทำให้ได้เรียนรู้ว่าตัวเองมีความสามารถมากแค่ไหน ฟุตบอลข้างถนน หมายความคุณต้องไม่กลัวใคร
ข้อดีของการเล่นกีฬาข้างถนนไม่ได้จำกัดเฉพาะ ฟุตบอลเท่านั้น ในกีฬารักบี้ก็มีที่ชนบทของนิวซีแลนด์ และมีการปลูกฝังความสนุก และความรู้จักตัวเอง ก่อนที่นักกีฬาเหล่านั้น จะเข้าไปเรียนในโรงเรียนรักบี้ชั้นนำ หลายเมืองในอเมริกา ก็สร้างนักเตะจากความเป็นธรรมชาติ และมีความสามารถเฉพาะตัว อย่างในการเล่นบาสเก็ตบอล หรือในกีฬา เบสบอลในปี 2019 มีผู้เล่นในเมเจอร์ลีก 102 คน ซึ่งเป็น 12 เปอร์เซนต์ของทั้งหมด ที่เกิดในสาธารณรัฐโดมินิกัน ซึ่งเล่นเบสบอลกันเต็มสวนสาธารณะ โดยเน้นที่ความสนุก หรืออย่างกีฬา คริกเก็ต Twenty20 ที่ตรินิแดด และ โตเบโก นักกีฬาได้เรียนรู้จากการเล่นจากพลาสติกมาก่อน เด็กๆ ได้พัฒนาทักษะ และจิตวิญญาณ ที่ทำให้พวกเขากลายเป็นชนชั้นสูง ด้วยพลังและความสับสนวุ่นวายของสภาพแวดล้อม ดังที่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยกล่าวไว้ว่า “การเล่นคือการเรียนรู้ที่ดีที่สุด”