ทำไมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงเล่นไมได้ ยามไม่มี แม็คโทมิเนย์ และ เฟร็ด

จริงอยู่ นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคม เขาเริ่มต้นด้วย 2 ประตู และ 1 แอสซิสต์ จากจอมทัพชาวโปรตุกีส และการเป็นแกนหลักในการโจมตี มันเป็นเรื่องที่ชัดเจน แต่มีรายละเอียดอื่น ที่ผู้จัดการทีมจะมองข้ามไมได้

นั่นก็คือ นักเตะสองคนที่อยู่ข้างหลังเขา จะต้องยืนกันอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งดูเหมือนว่า แมนยู จะมีรากฐานที่แน่น และสามารถเดินหน้าเข้าใส่ได้ตลอดทั้งฤดูกาล และทำให้ โซลชา มีพื้นที่ที่ได้หายใจ อย่างที่เขาต้องการ หลังจากที่โดนถามเกี่ยวกับเรื่องอนาคตมาโดยตลอด

การประสานงานของ เฟร็ด และ สกอตต์ คือเรื่องดี แต่มาติช กับ ฟาน เดอ เบ็ค เป็นเรื่องแย่

ชัยชนะที่ เมอร์ซีย์ไซด์ เฟร็ด และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ถูกจับตามองอย่างสำหรับแมนยู และมันไม่ใช่ครั้งแรกในฤดูกาลนี้

ทั้งคู่ได้จับคู่กันตรงกลางอีกครั้ง หลังจาก เจอกับหายนะในเกมวันพุธที่อิสตันบูล ในการจับคู่กันของ เนมานยา มาติช และ ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค จนนำมาซึ่งความพ่ายแพ้ที่น่าอับอาย และ โซลชา ได้เห็นถึงความแตกต่าง ในการจับคู่ของทั้งสองคู่

“สกอตต์ และ เฟร้ด ต่างทำผลงานได้ยอดเยี่ยมทั้งคู่” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังชัยชนะ 3-1 “มันเป็นการจับคู่ที่ยอดเยี่ยม พวกเขาไมได้เป็นตัวจริงในสัปดาห์นี้ แน่นอนที่ตุรกี สกอตต์ ได้เล่น 45 นาที แต่คุณได้ว่าเขาดูฟิตมาก”

ด้วยประตูของบรูโน, สกอตต์ และ เฟร็ด มีความสำคัญต่อพวกเขาเราเสมอ ทั้งในเรื่องพลัง และการรักษาตำแหน่งในแดนกลาง เพื่อให้นักเตะที่สร้างสรรค์เกม ทำได้อย่างต่อเนื่อง ในการสร้างโอกาส และแสดงความมหัศจรรย์ของพวกเขา

ปัญหาสำคัญของแมนยู

ฤดูกาลนี้ นี่คือปัญหาหลักปัญหาหนึ่งของแมนยู และ โอเล่ รู้สึกว่าเขาแก้ไขได้แล้ว

คุณคงหวังจากซูเปอร์สตาร์ในทีม แต่กุนซือชาวนอร์วีเจียน เชื่อว่า พวกเขาจะหาทางแก้ไขได้ในไม่ช้าก็เร็ว

เพียงแค่ว่าตัวตนของสองกองกลาง หลายครั้งที่พวกเขาจะไม่ถูกเลือก

เฟร็ด โดนวิจารณ์อย่างหนักนับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยค่าตัว 52 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2018 เขาย้ายมาจาก ชัคตาห์ โดเนสต์ค และต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างมาก

มีการบอกว่า การย้ายทีมเกิดขึ้น เพราะ โชเซ มูรินโญ ไม่มีทางเลือกอื่น ทำให้เขาจำเป็นต้องเอากองกลางชาวแซมบ้ามาร่วมทีม

ทรอย ดีนีย์ อดีตกองหน้าระดับ พรีเมียร์ลีก กล่าวเมื่อเดือนก่อน และบอกว่าเขามีความสุข ยามดูรายชื่อตัวจริงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเห็นว่ามี นักเตะหมายเลข 17 อยู่ในตัวจริง และบอกว่า นักเตะคนนี้ชอบวิ่งไปให้ไกลบอล แต่มันดูเหมือนจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น

เช่นเดียวกับ แม็คโทมิเนย์ ที่แมนยู หลังจากที่เจอปัญหามากมาย ในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ ในปี 2017 กองกลางชาวสกอตแลนด์ ได้ก้าวมาอยู่กับทีมชุดใหญ่ภายใต้การคุมทีมของ มูรินโญ แต่การก้าวขึ้นมาในช่วงแรก เขาโดนตั้งคำถามเกี่ยวกับ ทัศนคติ หลังบางครั้งเขาก็โดนส่งกลับไปเล่นทีม U23 แต่ก็ยังได้รับการจับตามองจาก เฮดโค้ชของเขา

ไม่มีคำถามเรื่องวินัยในตัวเขา ตอนนี้ ในฐานะหนึ่งในนักเตะที่มีคุณสมบัติครบถ้วนของทีมชุดใหญ่ ดาวเตะวัย 23 ปี กลายเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมชาติสกอตต์แลนด์ ที่คุมทีมโดน สตีฟ คลาร์ก โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับ เซอร์เบีย ในการชิงตั๋วไปยูโร 2020

เช่นเดียวกับ เกมวันเสาร์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่แพ้ต่อสเปอร์ส 1-6 คาบ้าน ทั้งคู่กลายเป็นหัวใจสำคัญของการเรียกฟอร์มที่ดีของ แมนยู ในฤดูกาลนี้

ในเกมกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง ทั้งคู่ได้ตับคู่กันตรงกลาง ในการบุกเยือนเมืองหลวงของฝรั่งเศส ในขณะที่ ลงานของ เฟร็ด ในเกมกับ ไลป์ซิก ก็ได้รับการยกย่อง และแม็คโทมิเนย์ ก็มีส่วนช่วยให้ แรชฟอร์ด อัดทีมจากเยอรมัน

ทั้งคู่ยังเป็นคนสำคัญในการช่วยให้แมนยู คว้าชัยในลีก นัดที่ ชนะ นิวคาสเซิล 4-1 ที่เซนต์ เจมส์ ปาร์ค

ที่กูดิสัน ทั้งคู่ก็นำความนิ่งมาสู่ทีม เห็นได้ในจังหวะตีเสมอของแมนยู ที่มีการต่อบอลกันถึง 20 ครั้ง ก่อนที่แฟร์นานเดซ จะยิงเข้าไป ซึ่งทั้ง แม็คโทมิเนย์ และ เฟร็ด ต่างมีส่วนร่วม

และมันถือเป็นสถิติการต่อบอลเข้าทำที่สูงที่สุดลำดับของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้เลยทีเดียว โดยก่อนหน้านี้ก็คือ จังหวะที่ แม็คโทมิเนย์ มีส่วนร่วมจ่ายบอลกว่า 21 ครั้งก่อนที่สุดท้าย อารอน วาน บิสซาก้า จะยิงเข้าไปในเกมกับ นิวคาสเซิล

การเปรียบเทียบ

เมื่อคุณเจาะลึก และเปรียบเทียบบรรดาคู่มิดฟิลด์ของแมนยู เหตุผลเบื้องหลังของทั้งคู่ ก็ออกมาชัดเจน

กองกลางชาวแซมบ้า และสกอตต์แลนด์ กลายเป็นคนที่มีสถิติที่ดีที่สุด เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับ ปอล ป็อกบา, มาติช และ ฟาน เดอ เบ็ค

แม็คโทมิเนย์ คือคนที่สร้างโอกาสได้มากที่สุดใน 5 กองกลาง โดยมีค่าเฉลี่ย 1.48 ครั้งต่อเกม

นอกจากนี้ ชาวสกอต์ยังตัดบอลได้มากกว่า 2.21 ครั้งต่อเกม โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 9.45 ต่อเกม เฟร็ด เป็นคนที่ตัดบอลได้มากที่สุด

มันเป็สถิติในเกมรับของพวกเขา ที่ทำให้พวกเขามีความสำคัญมากในช่วงเวลาที่ยากลำบาก สำหรับ ป็อกบา และ ฟาน เดอ เบ็ค จะสอดแทนเป็นตัวจริง

ปัญหาหลักคือ ดาวเตะชาวเฟรนช์ค่าตัว 89 ล้านปอนด์ ถูกคาดเดาอนาคตอย่างต่อเนื่อง หลังทำผลงานได้ไม่น่าปรัทับใจที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หรือ ดาวเตะตัวใหม่ที่เพิ่งย้ายมาด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ อย่าง ฟาน เดอ เบ็ค ที่เจอกับปัญหา หลังได้เล่นในพรีเมียร์ลีกไปเพียง 76 นาทีเท่านั้น

การแย่งตำแหน่งตัวจริง สำหรับ ฟาน เดอ เบ็๕ ถือเป็นเรื่องยาก เนื่องจาก ทีมมีตัวรุกมากพอ ในขณะที่ แม็คโทมิเนย์ และ เฟร็ด พร้อมระวังหลังให้ บรูโน

มาติช ถือเป็นนักเตะที่โดดเด่นเรื่องเกมรับ แต่โอกาสของเขาก็ถูกจำกัด โดยโซลชา จะส่งกองกลางชาวเซิร์บ ลงสนามเท่าที่จำเป็น และดูเหมือนว่า กุนซือชาวนอร์วีเจียน จะค้นพบวิธีแก้ไขปัญหา เพื่อให้ทีมขับเคลื่อนไปข้างหน้า ทั้งในสนามและตารางคะแนน