ฟิล โฟเด้น ในวัย 20 ปี ได้โอกาสลงสนามในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 12 นัด นับตั้งแต่ลงเล่นนัดแรกในปี 2017 และโอกาสของเขาน่าจะมาขึ้น หลังจากที่ ดาบิด ซิลบา ย้ายออกจากทีมช่วงซัมเมอร์ แฟนบอลแมนซิตี้ ต่างหวังว่าในที่สุด กวาร์ดิโอลา จะให้บทบาทสำคัญในทีม แก่เด็กจาก สต็อตพอร์ท ที่โตมากับครอบครัวหงส์แดง เป็ป ให้คำมั่นสัญญามาหลายปี ตั้งแต่ฤดูกาล 2017/18 ว่าเด็กคนนี้พร้อมที่จะลงเล่นให้กับแมนซิตี้ และ ทีมชาติอังกฤษ อย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายมันก็ไม่เกิดขึ้น
กวาร์ดิโอลา ควรจะเป็นผู้จัดการทีม ที่พร้อมให้โอกาสเยาวชนก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หลังจากที่ทีมเยาวชนของพวกเขา เข้าถึง รอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ ยูธ คัพ ถึง 4 จาก 5 ฤดูกาลหลังสุด แต่พวกเขากลับแทบไม่ได้รับโอกาสเลย และสุดท้ายก็เลือกย้ายทีมออกไป เพราะไม่ได้ลงสนาม
คัลดูน อัล มูบารัค ประธานสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างหวังสูงสำหรับการดันเด็กขึ้นมาจากอคาเดมีของ แมนซิตี้ และคาดว่าจะก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลก่อน
“สิ่งเหล่านี้ จะทำให้ปีที่กำลังจะมาถึงมันพิเศษยิ่งขึ้น เมื่อเรามีนักเตะ 3-4 คนที่เชื่อว่าควรจะได้โอกาสอย่างเต็มที่ในทีมชุดใหญ่” เขากล่าวในช่วงเดือนพฤษภาคม 2017 “คุณมองไปที่นักเตะอย่าง ซานโช, ฟิล โฟเด้น หรือ บราฮิม ดิอาซ นักเตะเหล่านี้มีความสามารถสูงมาก และยังมีอีกหลายคนที่ไม่ได้เอ่ยชื่น ผู้เล่นเหล่านี้มีโอกาสสูงที่จะได้เล่นทีมชุดใหญ่ และแสดงให้เห็นว่าพวกเขาทำได้ และจะก้าวขึ้นเป็นนักเตะชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หากคุณถามเป็ป ในวันนี้”
แต่แม้ แมนซิตี้ จะเสนอสัญญาให้ แต่ บราฮิม ดิอาซ ก็เลือกไป เรอัล มาดริด ราบบิ มาตอนโด้ ก็ไป ชาลเก้ (และเพิ่งมีข่าวว่าอาจจะย้ายไป เรอัล มาดริด) ในขณะที่ เอริค การ์เซีย มีความมุ่งมั่นที่จะกลับไปบาร์เซโลนา
อย่างไรก็ตาม จาดอน ซานโช เป็นคนที่เราสนใจมากที่สุด หลังเขาปฏิเสธโอกาสที่จะเป็นนักเตะจากอคาเดมี่ ได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดของแมนซิตี้ ที่ 30,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ และเลือกย้ายไป โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเดือนสิงหาคม 2017 แทน และ แมนยู ก็เตรียมทุ่มเงิน 100 ล้านปอนด์ กับ ผู้เล่นที่ แมนซิตี้ ขายไปเพียง 8 ล้านปอนด์ เมื่อ 3 ปีก่อน
แมนซิตี้ ยอมจ่ายเงินให้ วัตฟอร์ด 66,000 ปอนด์ ตอนที่เขาอายุ 15 ปี และยังเพิ่มไปอีก 500,000 ปอนด์ จากความสามารถของเขา เขามีความมุ่งมั่นที่จะหนีความยากลำบาก จากการเกิดที่ ลอนดอนตอนใต้ และเขาก็มีความสุขทีได้โอกาสย้ายมาแมนเชสเตอร์ เพื่อที่เขาจะได้มีสมาธิกับฟุตบอลของเขา
เขาถูกเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยม ในรายการ MECUP หลังจากที่ย้ายมาอยู่ทีม U15 เพียงแค่เดือนเดียว โดยพวกเขาสามารถเอาชนะ บาร์เซโลนา นอกจากนี้ พวกเขายังคว้าแชมป์ อีลิต นีออน คัพ ในเดือนต่อมา โดยในนัดชิงชนะเลิศ ซานโช ทำไป 2 แอสซิสต์ ไม่กี่เดือนต่อมา เขาก็ได้ขึ้นไปอยู่ทีม U16 ของ ซิตี้ และได้เจอกับ เรด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะตกรอบด้วยการพ่ายจุดโทษ แต่ซานโช ก็ยังได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์
“ในอีก 5 ปี ข้างหน้า ทุกคนจะพูดถึง จาดอน ซานโช” บทความหนึ่งใน Evening news เมื่อปี 2015 พูดถึง ซานโช และนำเขาไปเปรียบเทียบกับ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ตอนอายุ 15 ปี ด้วยค่าตัว 450,000 ปอนด์ จาก คิวพีอาร์ ก่อนจะขายให้ แมนซิตี้ ด้วยเงินจำนวน 44 ล้านปอนด์
ซานโช ยิงประตูในอีกไม่กี่เดือนต่อมา โดยใช้เวลาเพียงแค่ 4 นาทีเท่านั้น ในการเล่นเป็นปีกซ้ายให้กับทีม U18 เจอกับ นิวคาสเซิล ซึ่งตอนนั้น เขาเพิ่งอายุ 15 ปี เท่านั้น เจสัน วิลค็อกซ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการอคาเดมี แมนซิตี้ แต่เป็นโค้ชในตอนนั้น ยอมรับว่าเขาไม่รู้จะชมซานโช อย่างไร “ผมคิดว่าเขาน่าจะตื่นเต้น เหมือนกับเด็กทั่วไป ที่เล่นฟุตบอลในรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี นัดแรก” เขาบอกกับ Evening News “ผมรอคอยที่จะได้ร่วมงานกับเขาจริงๆ เพราะเขาเป็นเด็กที่มีความสามารถ และยังทำงานหนัก ไม่ใช่แค่ในระดับสโมสรที่เขาทำผลงานได้น่าประทับใจ แต่ยังรวมถึงทีมชาติอังกฤษ ที่เขายิงไป 12 จาก การลงสนาม 16 เกมให้ทีมรุ่น U16 และ U17”
เมื่ออายุ 16 ปี เขาได้รับข้อความในช่วงก่อนเริ่มฤดูกาลว่าเขาจะได้ซ้อมกับทีมชุดใหญ่ เมื่อซานโช นึกถึงตอนที่ กวาร์ดิโอลา มาหาเขา และกอดเขาที่สนามซ้อม และให้คำแนะนำ จนเขาเผลอที่จะยิ้มออกมา “สิ่งที่ผมสามารถทำได้ เขาได้เห็น และเขาต้องการให้ผมแก้ไขบางอย่าง” ซานโช กล่าว “เขารู้ว่าผมทำอะไรได้บ้าง”
ซานโช ได้เข้าไปเล่นให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ U23 ในระดับพรีเมียร์ลีก และได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องทั้งทีเพิ่งอายุ 17 และเขาได้มีชื่อติดทีมชาติ U17 ในยูโร ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ซึ่งอังกฤษชุดนั้นแพ้ต่อ สเปน ในรอบชิงชนะเลิศ ในการดวลจุดโทษ โดย ซานโช เป็นดาวซัลโวลำดับสาม และได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยม หลังมีส่วนถึง 10 จาก 15 ประตู ที่อังกฤษ ทำได้ เขาเป็นดาวรุ่งที่ถูกพูดถึงเยอะมาก เพราะนักเตะที่เคยได้รางวัลนี้เหมือนเขา ก็มีทั้ง เวย์น รูนีย์, โทนี โครส, เชสก์ ฟาเบรกาส และ มาริโอ เกิตเซ
หลังจากนั้นในช่วงซัมเมอร์ กวาร์ดิโอลา ตัดสินใจตัดซานโช ออกจากทีมในช่วงทัวร์ปรีซีซั่น ที่ สหรัฐอเมริกา และพวกเขาก็ต้องเจอกับ แมนยู ที่ฮุสตัน ก่อนจะแพ้ไป 0-2 จากการโดน โรเมลู ลูกากู และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิง โดยเกมนั้น นักเตะอย่าง โทซิน อดาราบิโอโย และ ฟิล โฟเด้น ได้โอกาสลงเล่น แต่ตัวของซานโช ต้องอยู่ที่บ้าน และมีทีมอย่าง อาร์เซนอล และ สเปอร์ส ท่ให้ความสนใจ เช่นเดียวกับทีมทั่วทั้งยุโรป โดยสเปอร์ส พยายามขอซานโช เป็นหนึ่งในข้อเสนอในการปล่อยตัว ไคล์ วอล์คเกอร์ แต่แมนซิตี้ ก็ปฏิเสธไป
ซานโช ได้เดินทางไปลอนดอน และไม่ได้กลับไปที่แคร์ริงตัน และตัดสินใจแล้วว่าจะย้ายทีม แมนซิตี้ พยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาอยู่ต่อ แต่การพยายามคว้าตัว อเล็กซิส ซานเชซ ซึ่งสุดท้ายก็พลาดไป ทำให้ซานโช เชื่อว่า เขาจำเป็นต้องย้ายทีม เพื่อโอกาสในการเล่นกับทีมชุดใหญ่
“เชื่อผมเถอะว่าเราพยายามทุกอย่างแล้ว” กวาร์ดิโอลา กล่าวหลังจากที่ ซานโช ประกาศว่าจะย้าย “เราหรอกว่าเราไม่สามารถสัญญา หรือจับมือได้ แต่เราก็เสียใจกับการกระทำที่เกิดขึ้น เราได้เจอพ่อและเอยนต์ของเขา และ เอเยนต์อีกคนและตัวเขา แต่ถ้านักเตะบอกต่คำว่าไม่ เราจะทำอะไรได้ มันน่าผิดหวัง เพราะเขาโตมาจากอคาเดมี เราพยายามช่วยเหลือในการสร้างเขา ช่วยเหลือ และดูความสามารถของเขาในอคาเดมี เขารู้ดี ครอบครัวเขาก็รู้ดี และ เอเยนต์ของเขาก็รู้ดี เราเชื่อใจพวกเขามาก มากจริงๆ บางทีเขาคิดว่า ดอร์ทมุนด์ อาจจะให้โอกาสได้มากกว่า และผมเข้าใจว่าได้ เราจะทำอย่างไรได้ ถ้านักเตะบอกว่าไม่”
ตลอด 3 ฤดูกาลของเขาที่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซานโช ทำผลงานได้น่าเหลือเชื่อ และกลายเป็นนักเตะที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในยุโรป เขายิงไป 33 ประตู และ แอสซิสต์ ไป 37 ครั้ง จากการเป็นตัวจริง 70 นัด จากการลงสนามทั้งหมด 93 นัด ในและบุนเดสลีกา และ แชมเปี้ยนส์ลีก เขามีชื่อทำประตูในการเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค, บาร์เซโลนา และ แอตเลติโก มาดริด ในการแข่งขันรายการใดก็ตาม เขาไม่ได้โอกาสกับ แมนซิตี้ เลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้จะแสดงความสามารถออกมาเยอะมาก กับทีมเยาวชนของเรือใบสีฟ้า และกับทีมชาติอังกฤษ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ซานโช เล่นให้ทีมชาติอังกฤษ ไปแล้ว 11 นัด หลังได้โอกาสครั้งแรก และเขาได้พูดถึงการย้ายออกจาก แมนซิตี้ โดยแสดงความขอบคุณ และทำให้เขามาถึงตรงนี้ และเขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่า คนที่สงสัยในตัวเขาคิดผิด ในการตัดสินใจของเขา
“มีหลายคน ที่สงสัยตอนที่ ผมย้ายออกจากแมนซิตี้ พวกเขาเหมือนกับว่า คุณไม่ควรออกจากมือของ เป็ป กวาร์ดิโอลา แต่ผมแค่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผม” เขาบอกกับ SoccerBible เมื่อซัมเมอร์ก่อน “สำหรับผมแล้ว พวกเขาช่วยให้ผมพัฒนาขึ้นมาก ทั้งการให้โอกาส และตอนนี้ผมก็ได้โอกาสแล้ว ตอนนี้ผมได้แสดงมันออกมา อย่างที่ผมเป็นในวันนี้ ผมอยากขอบคุณทุกคน ที่เป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางของผมจนมาถึงตอนนี้ ทั้งการเริ่มต้นที่วัตฟอร์ด ซึ่งมันดีมาก”
ต่างจาก กวาร์ดิโอลา ที่ซิตี้ มีผู้จัดการทีมมากมายที่ให้โอกาสดาวรุ่ง 11 ตัวจริงของ ใน 11 เกมลีกในฤดูกาลนี้ ต่างมีอายุเฉลี่ยที่ 24 ปี หรือน้อยกว่า บอร์นมัธ ทำไป 7 เกม เชลซี 5 และ อาร์เซนอล 2 มีเพียงแค่ 2 ทีม ที่มีจำนวนน้อยกว่า ในการเจอกับ ไบร์ทตัน ทีมของเรามีค่าเฉลี่ยที่ 23 ปี 350 วัน และในฤดูกาลนี้ เราเป็นทีมที่อายุน้อยที่สุดในหลายทีมในพรีเมียร์ลีก ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ ที่ ซานโช ในวัน 20 ปี ต้องการกลับไปแมนเชสเตอร์ แต่เป็นแมนเชสเตอร์ ฝั่งสีแดง
