เปแอสเช กับการเขย่าบัลลังก์ ลีก ชาวนา
พวกเขาหวังว่า ในนัดชิงชนะเลิศของแชมเปี้ยนส์ลีก ที่พวกเขาขาดหวัง จะทำให้ ลีก ฝรั่งเศส ถูกลืมเลือน การเป็นลีกชาวนา ลดเลือนหายไป
ตอนนี้มันยุติธรรมแล้วหรือยังที่ชื่อเหล่านั้นจะหายไป หลังจากที่ บอลถ้วยรายการใหญ่ของยุโรป ได้มีความประหลาดใจเกิดขึ้น โดยเฉพาะ โอลิมปิก ลียง ที่สามารถฟันฝ่ามาถึงรอบรองชนะเลิศ และได้ลบคำสบประมาทต่างๆ
แต่การพ่ายแพ้ 0-1 ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ยุโรป มาครองเป็นสมัยที่ 6 คือความล้มเหลวอีกครั้งของเปแอสเช ในรายการนี้
ท้ายที่สุดแล้ว การคว้าแชมป์ลีก เอิง ของ เปแอสเช มาครอง ในช่วง 9 ฤดูกาลหลัง ที่พลาดไปแค่ครั้งเดียว ต่อน้ำมือของ อาแอส โมนาโก ไม่ใช่ตัวที่บางชี้ว่าพวกเขาเป็นทีมระดับท็อปของยุโรป ตราบใดที่ยังคว้าแชมป์ยุโรป มาครองไม่ได้
มาร์กเซย์ ยังเป็นทีมจากฝรั่งเศส เพียงทีมเดียวเท่านั้น ที่คว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองได้ในปี 1993
การทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อคว้าแชมป์
ยิ่งไปกว่านั้น ฉายาของลีกชาวนา ยังคงอยู่ โดยเฉพาะการทีทีมจากปารีส ยังครองความยิ่งใหญ่ โกล เว็บไซต์ฟุตบอลชื่อดัง ประเมินว่าขุมกำลังของทีมชุดนี้มีมูลค่าสูงถึง 700 ล้านยูโร
สำหรับสโมสร นี่ถือเป็นการทุ่มเงินจำนวนมาก โดยความต้องการขั้นต่ำสุดคือการคว้าแชมป์ลีก โดยมีความท้าทายอยู่ที่การคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองให้ได้
อย่างก็ตาม ไม่ใช่แค่นักวิจารณ์ ที่พูดถึงความสำเร็จ เจ้าของ เปแอสเช จากกาตาร์ ก็ต้องการแชมป์รายการนี้ แม้จะต้องลงเงินไปเท่าไหร่ก็ตาม ซึ่งพวกเขาก็เข้ามาเทคโอเวอร์ตั้งแต่ปี 2011 แล้ว
เนย์มาร์ ไม่สามารถ พาเปแอสเช เป็นแชมป์ยุโรปได้
การคว้ารางวัลมาครองได้มากมายกับ สโมสร เนย์มาร์คือคนสำคัญของเจ้าของทีม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถพาทีมคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการได้ในคืนวันอาทิตย์
ดาวยิงชาวแซมบ้า คงไม่พอใจ แม้ตัวเขาจะเคยเป็นแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกมาแล้ว สมัยอยู่กับ บาร์เซโลนา
ในช่วงหลังจบเกม น้ำตาของเขาไหลออกมาไม่หยุดหย่อน และเขาไม่ยอมลุกจากม้านั่งสำรอง เพื่อไปรับเหรียญ เช่นเดียวกับสโมสร คืนดังกล่าวเป็นคืนที่ยิ่งใหญ่สำหรับเนย์มาร์
โดยปัจจุบัน เขาอายุ 28 ปี แล้ว และนี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขา ในการเอาตัวเองออกจากเงาของลิโอเนล เมสซี ที่ยิ่งใหญ๋ที่ บาร์เซโลนา แต่ค่ำคืนนี้ แสดงให้เห็นว่าเขายังไม่ใช่นักเตะที่ยอดเยี่ยม แค่เป็นนักเตะคนหนึ่งที่พาทีมคว้าแชมป์ได้เท่านั้น
ส่วนนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก ลำดับ 2 อย่าง คิลิยัน เอ็มบัปเป้ เขาควรช่วยแบกความรับผิดชอบด้วยหรือไม่ ในแง่หนึ่งมันอาจจะใช้ เพราะคุณไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่ คุณจะได้เข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง แต่หัวหอกเฟรนช์ ก็ได้อยู่เคียงข้างเขาจนจบ และด้วยอายุ 21 ปี มันยังมีโอกาสที่เขาจะได้สัมผัสถ้วยแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก ในอนาคต
นอกจากนี้คุณต้องพิจารณาถึง เหตุผล เบื้องหลังในการซื้อทั้งคู่มาร่วมทัพเปแอสเช แน่นอนว่าทั้งคู่มีพรสวรรค์ และ มีการตลาดที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสโมสร อย่าง เปแอสเช
ในขณะที่เนย์มาร์ ถูกซื้อมาเพื่อพาทีมคว้าแชมป์ระดับทวีป เอ็มบัปเป้ จะเป็นนักเตะที่จะเป็นกำลังหลักในระยะยาวของ เปแอสเช และเป็นผู้ที่รับช่วงต่อการครองโลก จาก เมสซี และ คริสเตียโน โรนัลโด้ เมื่อทั้งคู่ โบกมือลาผืนหญ้า
แชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก จะมีความสำคัญขึ้นในปีหน้า
แชมเปี้ยนส์ลีก ปีหน้าจะมีความสำคัญขึ้นสำหรับทีมจากฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ด้วยผลกระทบจากไวรัส ทำให้รอบน็อคเอาท์ ปีนี้ มันมีความสูสีมากขึ้น
ยูฟ่า กำลังพิจารณาเรื่องการเล่น 2 นัด ในรอบนี้ และแน่นอนว่าการจะฝ่าแต่ละด่านก็คงไม่ง่าย แน่นอนว่า บาเยิร์น มิวนิค คือตัวเต็ง และยังมี ลิเวอร์พูล, เรอัล มาดริด หรือ ต้นสังกัดใหม่ของ ลิโอเนล เมสซี เป็นต้น
ภารกิจของเปแอสเชในปีต่อไป คงไม่เปลี่ยนแปลง เนย์มาร์ และ เอ็มบัปเป้ ต้องรีบลืมความผิดหวัง และพร้อมสำหรับการเริ่มต้น ในลีก เอิง กับ ลองส์ ในวันที่ 10 กันยายนนี้ ส่วน รอบแบ่งกลุ่ม ของแชมเปี้ยนส์ลีก น่าจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคม
แต่ในที่สุดสายตาของพวกเขาก็ต้องจับต้องไปที่การไปให้ถึงรอบชิงชนะเลิส ที่อิสตันบูล ในปีหน้า ซึ่งจะเป็นัวันสำคัญที่เขาจะเอาคำว่า ลีกชาวนา ออกจาก ลีกเอิง แต่ตัวสโมสรได้ในที่สุด
