นี่คือหนึ่งในตำนานของนักแสวงหาโอกาสเพื่อยิงประตูตามชื่อตำแหน่งแบบเฉพาะตัวที่ได้มีการสถาปนาตัวเองเป็นภาษาเยอรมันว่า “Raumdeuter” (รอมดอยเตอร์) นั่นเอง แต่กลับถูกมองข้ามอยู่เป็นประจำ เพราะไม่ค่อยได้รับเสียงชื่นชมในวงกว้างเสียเท่าไรนัก
จอมหาพื้นที่ว่างเพื่อสอยตาข่าย
เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่มีตำแหน่งการเล่นเป็นแบบเฉพาะตัวในโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน เพราะเป็นผู้เล่นสาระพัดประโยชน์ในแนวรุกที่ไม่ได้มีตำแหน่งการเล่นแบบตัวตาย โดยสามารถสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้า, กองหน้าตัวต่ำ, กองกลาวตัวรุก หรือ ปีกริมเส้นได้ด้วย และเป็นนักเตะที่พร้อมหาพื้นที่ว่างเพื่อยิงประตูได้เป็นอย่างมาก จึงเป็นที่มาของคำว่า “Raumdeuter” ตามแบบฉบับของภาษาเยอรมัน ซึ่งแปลเป็นไทยว่า “จอมหาพื้นที่ว่าง” ตามคำนิยามของดาวเตะวัย 30 ปีที่เคยเอ่ยปากบอกเรื่องสไตล์การเล่นตามตำแหน่งของตัวเองเมื่อหลายปีก่อน
“ผมไม่ชอบถูกเรียกว่าเป็นกองหน้า ผมไม่คิดว่าตำแหน่งการเล่นของผมเป็นแบบนั้นเลย ผมชอบเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพื่อหาพื้นที่่ว่างด้านหลังกองกลางของทีมฝั่งตรงข้าม นั้นคือตำแหน่งที่ผมจะสามารถสร้างความเจ็บปวดให้ทีมต่อสู้ได้เสมอเลย ผมยืนเล่นได้ทั้งกองหน้า และกองกลางในเวลาเดียวกัน ผมคือ Raumdeuter มันคือสัญชาติญาณของผมเอง”
ตอนนี้ มุลเลอร์ ยิงประตูในศึกบุนเดสลีกาได้มากกว่า 100 ลูก นับตั้งแต่เริ่มแจ้งเกิดจากการเป็นเด็กปั้นของ บาเยิร์น มิวนิค ที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ในปี 2008 และสามารถสวมบทเป็น “จอมแอสซิสต์” จากการทำหน้าที่เป็นตัวจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตูได้แบบเป็นกอบเป็นกำอีกด้วย โดยเพิ่งสร้างสถิติจ่ายบอลให้เพื่อนสอยตาข่ายในหนึ่งฤดูกาลของเกมลีกสูงสุดเมืองเบียร์ได้มากที่สุดแบบตลอดกาลถึง 21 แอสซิสต์เลยทีเดียว จึงได้รับคำชมจาก “เลวานดี้” โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยอดดาวยิงทีมชาติโปแลนด์ของ “เสือใต้” ให้จอมสร้างสรรค์เกมรุกอย่างแท้จริง
“โธมัส ทำให้งานของผมง่ายมากขึ้นไปด้วย เขาช่วยผมได้มากๆ เลย เพราะว่าเขาพร้อมที่จะหาพื้นที่ว่างให้โอกาสลุ้นยิงประตูได้ตลอด และสามารถดึงผู้เล่นของทีมคู่แข่งเพื่อเปิดช่องว่างให้ผมยิงประตูได้ด้วย”
นักฉวยโอกาสวิ่งฝ่ากับดักล้ำหน้า
นอกจากนี้ มุลเลอร์ ยังมีอีกหนึ่งจุดเด่นในเรื่องของการฉวยโอกาสวิ่งฝ่ากับดักล้ำหน้าของทีมคู่แข่งเพื่อหลุดเข้าไปยิงประตูได้เป็นประจำ ซึ่งจะต้องเป็นคนที่มีสายตาที่เฉียบคมมากๆ เพราะจะต้องคอยชิงจังหวะกับแผงแนวรับของทีมคู่แข่งฝั่งตรงข้ามเกือบตลอด และจะต้องใช้ความเร็วเพื่อวิ่งผ่านแผงกองหลังที่ยืนเรียงกันเป็นเส้นตรงเพื่อไปรับลูกฟุตบอลจากการจ่ายไปข้างหน้าของเพื่อนร่วมทีมนั่นเอง
“กุญแจสำคัญเลยก็คือเรื่องของจังหวะเวลาในช่วงระหว่างที่อีกคนหนึ่งกำลังผ่านบอล และอีกคนหนึ่งกำลังวิ่งเข้าไปอยู่ในโซนที่ถูกต้อง นั้นคือพื้นที่อันตรายที่สุดในวงการฟุตบอล คุณจะต้องเรียนรู้เอาไว้เลย หากคุณมีเวลาศึกษาเรื่องเหล่านี้ คุณจะรู้ได้เลยว่านี่คือสิ่งที่จะทำลายแนวรับของทีมคู่แข่งได้มากที่สุด มันมักจะอยู่ระหว่างเส้นดักจังหวะล้ำหน้าตามเวลาที่เหมาะสมด้วย จุดแข็งอีกอย่างหนึ่งของผมเลยก็คือการยืนเล่นในตำแหน่งที่ไม่มีลูกฟุตบอล และกำลังยืนอยู่ระหว่างเส้นดักล้ำหน้า มันไม่ได้มีอะไรลึกลับเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย”
สัญชาติญาณที่ไม่มีใครเหมือน
อาจจะเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด หรืออาจจะเป็นเรื่องปกติของ มุลเลอร์ ก็ได้ เพราะเขาเป็นนักเตะที่ยืนหันหลังเล่นให้กรอบเขตโทษของทีมคู่ฝั่งตรงข้าม แต่เขาสามารถประเมินรูปแบบการเล่น และกำหนดระยะทางการวิ่งเพื่อช่องว่างไปรับลูกฟุตบอลเหนือกองหลังของทีมคู่แข่งได้เสมอ แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจากการคิดเร็วทำเร็วไปตามสัญชาติญาณของดาวเตะวัย 30 ปีที่ถูกปรามาสว่าไม่ได้มีความเก่งกาจเหมือนนักเตะระดับโลกคนอื่นๆ แต่กลับประสบความสำเร็จได้แบบต่อเนื่องเลย
“มันเกิดขึ้นจากการยืนเล่นตรงตำแหน่งนั้นเลย และเกิดจากการคิดเร็วไปตามความสามารถของตัวเอง ผมบอกได้เลยว่า ผมไม่ได้เป็นคนที่ผิดปกติอะไรเลย สิ่งเดียวที่ผิดปกติเลยก็คือผมเล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมรุก ถ้าคุณดูจากความสามารถของผม แม้ว่าผมจะเลี้ยงบอลไม่เก่ง แต่ผมมีเทคนิคการเล่นที่ไม่เป็นรองใคร นั่นคือสิ่งที่หลายๆ คนไม่เข้าใจในตัวผม และตั้งคำถามว่าผมเป็นนักฟุตบอลแบบไหนกันแน่ ทำไมถึงได้เป็นนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จได้แบบนั้น ผมเองก็ไม่เข้าใจข้อสงสัยแบบนั้นเหมือนกัน”
ผลงานที่ไม่ได้รับการเอ่ยถึง
ผลงานในช่วงตลอดอาชีพค้าแข้งของ มุลเลอร์ สามารถส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายในทุกรายการได้มากถึง 252 ลูก และจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตูได้มากถึง 230 แอสซิสต์เลียทีเดียว แต่กลับไม่ค่อยได้รับการยกย่องจากแฟนบอลเสียเท่าไรนัก หากเทียบพวกดาวเตะระดับ “ซูเปอร์สตาร์” ในแนวรุกคนอื่นๆ ที่มีสถิติซัลโวตาข่ายได้มากพอๆ กัน หรืออาจเป็นเพราะว่าวงการลูกหนังโลกไม่ได้ให้การยอมรับผู้เล่นในตำแหน่ง “Raumdeuter” ก็เป็นได้