โดยเฉพาะ กุสตาโว นาบินเกอร์ ที่ตัดสินใจโฟกัสที่เขาเป็นพิเศษ ในการเป็นกองหลังดาวรุ่ง ที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ ส่วนหนึ่งก็คือ ปรัชญาในการสร้างเกมรุกจากแนวรับ โดยมีหน้าที่หลักในการเสิร์ฟบอลจากแดนหลังสู่แดนกลาง ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตัวเขาไปมาก
นั่นคือตอนที่ นาบินเกอร์ กำลังทำงานร่วมกับเยาวชนบราซิล อย่างใกล้ชิด มากกว่าใครๆ และพยายามแก้ปัญหาที่ควบคุมไม่ได้ และพยายามมองหาสิ่งที่ดีที่สุดให้เจอ
“ผมให้เขาดูวีดีโอของ ยาย่า ตูเร่”
ผมเคยทำงานกับกัวานี และผมได้เป็นโค้ชทีมรุ่นอายุไม่เกิน 14-15 ปี เรามีข้อตกลงกับ บูกรินโญ ของ มูรันกาบ้า และพวกเขา มักจะพาเราไปดูนักเตะที่แนวโน้มเป็นสุดยอดนักเตะ” เขากล่าวกับ ESPN ถึงการเห็น กาเบรียล เป็นครั้งแรก
“เมื่อช่วงปลายปี 2013 เมนิโน ถูกจับไปเล่นกองหลัง และปรับตัวเข้ากับตำแหน่งใหม่อย่างรวดเร็ว เพราะเขามีความเก่งในการพาบอลขึ้นมา และทะลุทะลวงเข้าไปในเขตโทษ เขาทำผลงานได้ดีมากในตอนนี้ มีความแข็งแกร่ง แม้จะตัวไม่สูงมากตามอายุ”
“เขาได้รับการผลักดันให้ไปเล่นข้ามรุ่น และส่วนใหญ่ก็ซ้อมกับนักเตะอายุมากกว่าเกือบทั้งปี เขาลงสนามไปทั้งหมด 10 เกม แต่ส่วนใหญ่เขาจะเป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น เราพูดกันเยอะมาก และผมก็เปิดวีดีโอของ ยาย่า ตูเร่ ให้ดู”
กาเบรียล ไม่เคยสนใจ ในการดูตัวอย่างจากกองกลางชาวไอวอรี โคสต์
เขาทำให้ ดานี อัลเวส หลุดจากทีมชาติบราซิล
ตอนอายุ 16 ปี ยักษ์ใหญ่แห่งเซา เปาโล อย่าง พัลไมรัส คว้าตัวเขาไปร่วมอคาเดมี โดยตอนแรก เขาเล่นเป็นกองกลาง และสุดท้าย เขาก็ได้คว้าแชมป์ครั้งแรก ใน โกปา โด บราซิล U17
พัลไมรัส เลือกที่จะให้ เมนิโน เป็นหนึ่งในแผนการทำทีมชุดใหญ่ เมื่อต้นปี 2020 ดาวเตะอายุน้อย เติบโตขึ้นอย่างมาก ในการแข่งขัน เปาลิสต้า สเตท แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ประสบความสำเร็จ แต่ก็โดนไวรัสแพร่ระบาดจนเกิดการล็อคดาวน์
เขามองหาเป้าหมายเสมอ และบางครั้งก็ขยับไปเล่นทางริมเส้น ด้วยไอเดียวเหล่านี้ ในเดือนกันยายน ดาวเตะวัย 20 ปี ก็ถูกทีมชาติบราซิล ชุดใหญ่เรียกไปแทนที่ ดานี อัลเวส ว่าที่ตำนาน
“เขาเล่นไป 7 เกมให้กับ พัลไมรัส ในตำแหน่งนั้น” โค้ช ติเต้ อธิบายหลังจากเรียกตัว กาเบรียลมาลุยศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกเดือนตุลาคม ที่มีคิวจะพบกับ โบลิเวีย และ เปรู
“เขาเป็นฟูลแบ็ค มาตั้งแต่เยาวชน เราได้เห็นทักษะส่วนตัวและเทคนิคของเขาทั้งหมด เช่นเดียวกับ เราได้ดูเกม 4 เกม ทางอัฒจันทร์ และ 8 เกมทางทีวี เราติดตามประวัติทั้งหมดของเขา เขาคือดาวรุ่งดวงใหม่ ที่จะกลายเป็นกำลังหลักในอนาคต”
อัลเวส ไม่ใช่ตัวเลือกของตีเต้ โดยเขาชี้แจงและยืนยันว่า การมองข้าม แบ็คขวาที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าดีที่สุดในโลก นั้น ได้รับการสนับสนุนจาก จอมทัพของเซาเปาโล
เป้าหมายแรกของเขา ในสีเสื้อบราซิล เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
กาเบรียล ดูเหมือนจะย้ายไปอีกตำแหน่ง ซึ่งเป็นการผสมผสานทักษะการป้องกันด้านข้างในช่วงเริ่มต้น และการฝึกซ้อมล่าสุด ทำให้เขากลายเป็นฟูลแบ็คบราซิล ที่ขึ้นชื่อเรื่องการระเบิดความเร็ว และมีความสุขในการเล่น และหาที่ว่างในกรอบเขตโทษของฝ่ายตรงข้ามได้เสมอ
แต่เป้าหมายในทีมชุดใหญ่ของเขา มันเหมือนกับที่ ตูเร่ ที่เป็นเหมือนกัน การยิงไกลสุดสวย ในเกม โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ในเกมที่พบกับ โบลิวาร์ ทำให้ พัลไมรัส นำห่างเป็น 2-0
ไม่ใช่เรืองง่ายสำหรับเซเลเซา ที่จะหาทายาทระยายาวของอัลเวส
ดานิโล ที่เคยถูกยกย่องมานานหลายปี กลายเป็นเหมือนของปลอม นับตั้งแต่ซานโตส, ปอร์โต้ และ ยูเวนตุส ในช่วงเริ่มแรก ที่ตอนแรกดูเหมือนเขาจะได้โอกาสก่อน กาเบรียล เพราะเขามีประสบการณ์ในการเล่นในบ้านพบกับ โบลีเวีย ในวันศุกร์
เยาวชนอย่าง เอแมร์สัน ที่ถูกบาร์เซโลนา ปล่อยให้เบติส ยืมตัว และ มาร์ซินโญ ของโบตาโฟก็เคยได้รับโอกาสจาก ตีเต้ เมื่อปีก่อน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในช่วง 1 ปีหลังจากนั้น เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้สโมสรต้องปล่อยตัวเขาเป็นนักเตะ ฟรี เอเยนต์ เมื่อสิ้นปี 2020
⚽🚀 @gabrielmenino00, gol de gente grande!
🔥 QUE GO-LA-ÇO! Gabriel Menino, de fora da área, criou essa maravilha em La Paz, o segundo do @Palmeiras sobre o @Bolivar_Oficial.
🔝 Na #Libertadores, o meia de 1️⃣9️⃣ anos marcou o primeiro gol como profissional.#GloriaEterna pic.twitter.com/sdmIEEM8cZ
— CONMEBOL Libertadores (@LibertadoresBR) September 17, 2020
โอกาสทอง
ด้วยปัญหาในตำแหน่งนี้ ทำให้กาเบรียลได้รับโอกาสทองที่จะสร้างชื่อของเขา สมมติว่า เขาก้าวผ่านเกมแรกไปได้ เขาก็มีโอกาสเป็นตัวหลัก
เขาบอกกับ UOL ว่า “ผมกำลังกินข้าวเที่ยงกับแม่ และเอเยนต์ก็โทรมาแสดงความยินดีกับผม และผมก็บอกว่า อีกแล้วเหลือ ผมคิดว่ามันเป็นเพราะประตูในเกมกับโบลิวาร์”
หลังจากนั้นเขาก็บอกว่า “ผมได้ใส่เสื้อสีเหลือง ผมไม่เข้าใจ ผมถ่ายวีดีโอ และมีความสุข และแม่ของผมก็เช่นกัน เราร้องไห้ด้วยกัน และนั่นคือตอนที่ผมเริ่มเข้าใจ”
ในขณะที่ปี 2020 ถือเป็นปีที่ฝันร้ายสำหรับนักฟุตบอลหลายคน แต่ก็เป็นสิ่งที่ต้องจดจำสำหรับเพชรเม็ดงามของพัลไมรัส
เขาได้รับโอกาส และได้เปิดตัวเป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติบราซิล หลังจากที่ต้องหยุดแข่งขันไปนานกว่า 10 เดือน, เปลี่ยนตำแหน่ง, คว้าแชมป์ และ เล่นในรายการใหญ่อย่าง ลิเบอร์ตาดอเรส ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นทีมแรก แต่ตอนนี้เขาได้กระทบไหล่กับนักเตะอย่าง เนย์มาร์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน, ติอาโก้ ซิลวา และ กาเซมิโร่ และอีกมากมาย
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างชื่อของเขาในทัพเซเลเซาที่มีนักเตะมากพรสวรรค์ถูกค้นพบตลอดหลายปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม กาเบรียล มุ่งมั่นที่จะทำให้แน่ใจว่านี่คือครั้งแรกของการเรียกตัว หลายครั้งบราซิล ไม่ว่าจะเป็นแบ็คขวาหรือกองกลาง หรือตำแหน่งอื่นๆ จะมีเด็กเก่งๆ มากมาย แต่สิ่งสำคัญคือความตั้งใจในการเล่น
