และที่สำคัญ ทีมที่เขาทำได้ ไม่ใช่ทีมระดับสมันน้อย ฤดูกาลก่อน พวกเขาผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ และเคยเป็นจ่าฝูงบุนเดสลีกา ในช่วงก่อนหน้านี้ และที่สำคัญ ไลป์ซิก ไม่แพ้ใครในบอลยุโรปมานานเกือบปีแล้ว และนี่คือแรชฟอร์ด ที่ลุกจากมานั่งสำรอง และทำลายพวกเขาในเวลาเพียง 18 นาที ด้วยแฮตทริค พร้อมทำให้ ดาโยต์ อูปาเมกาโน หนึ่งในกองหลังดาวรุ่งที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกคนหนึ่ง ถูกตั้งคำถาม หลังเจอกับการจบสกอร์ของเขา ที่แม่นยำ และเฉียบคม
แรชฟอร์ด ไม่เคยปกปิดความฝันของเขา เขาต้องการทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อจะเป็นนักเตะดีที่สุดในโลก ไม่ใช่แค่สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ อังกฤษ เพราะเห็นได้ชัดตั้งแต่วินาทีแรก ที่เขาลงเล่นบอลยุโรป เกมแรก ในศึกยูโรป้า ลีก ที่พบกับ มิดทิลแลนด์ ในปี 2016 เห็นได้ชัดว่าเขาแข็งแกร่ง, มีแคแรคเตอร์ที่ชัดเจน มีความเร็ว และเขาก็ยิงไป 2 ประตู อย่างเฉียบคม เหมือนที่ทำได้ในเกมกับ ไลป์ซิก โดยเกมนั้น หลุยส์ ฟาน กัล ให้โอกาสเขาเนื่องจาก อองโธนี มาร์กซิยาล มีอาการบาดเจ็บระหว่างวอร์มอัพ เขามองไปที่โอกาสอย่าง ทั้งที่ตอนนั้น เขาเพิ่งอายุ 18 ปี เท่านั้น แต่ตอนนั้น แมนยู ก็มีนักเตะดาวรุ่งหลายคนที่แจ้งเกิดและก็ดับไป ไม่ว่าจะเป็น เฟเดริโก้ มาเคด้า, คริส อีเกิลส์ และ จูเซ็ปเป้ รอสซี
เขาเป็นคนที่ถ่อมตัวมากๆ ยามที่ได้รับคำชม สิ่งเดียวที่เขาต้องการ คือการทำงานหนัก แรชฟอร์ด มีพรสวรรค์ เขามีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว หลังเติบโตมาจากอคาเดมีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาถูกติวเข้มเพิ่มเติมจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมที่รู้วิธีจบสกอร์เป็นอย่างดี และพยายามปรับแต่ง วิธีการเล่นของเขาอย่างละเอียด เพื่อให้เขาเฉียบคม ยามพลิกตัวยิง หรือยามหันหลังให้กับประตู
ในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาถูกเปลี่ยนบทบาทจาก กองหน้า มาเป็นนักเตะในตำแหน่งปีกที่สร้างความสะพรึงกลัวให้กับกองหลัง และมีหน้าที่ลากบอลตัดเข้าใน
ช่วงเริ่มต้นเขาออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม แบบไม่มีใครคาดคิด หลังยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้เขากลายเป็นแข้งซีเนียร์ภายในทีมอีกคน เพราะเขาคือ 1 ใน 4 นักเตะที่ยังอยู่กับทีมชุดลุยศึกยูโรป้า ลีก เมื่อปี 2016 คนอื่น ก็มีนักเตะอย่าง ฆวน มาต้า, เจสซี ลินการ์ด และ เซร์คิโอ โรเมโร ซึ่งสามคนดังกล่าวไม่มีใครได้ลงสนามในเกมกับ ไลป์ซิกเลย แฟนแมนยู ต่างรักเขา เขาคือตัวแทนของแฟนบอล ที่ได้ลงไปในสนาม
การจะแสดงความเป็นผู้ใหญ่มันต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก ก่อนหน้านี้เขาโดนอาการบาดเจ็บรบกวนจนต้องหายหน้าไปนาน ในช่วงหนึ่ง ฤดูกาลที่แล้วเขาเจอกับปัญหาพอสมควร เพราะไม่รู้ว่าจะเล่นตำแหน่งไหน แต่ตอนนี้เขาฟิตสมบูรณ์ และพร้อมเสมอ ไม่ว่าจะเป็นตัวสำรอง หรือ ตัวจริง
มีอะไรอีกบ้างเกี่ยวกับการกลับมาของแรชฟอร์ด ในฤดูกาลนี้ หลังฟิตเต็มร้อย มันเหมือนกับเขาได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง การจะตอบแทนได้ดีที่สุดก็คือการพาทีมประสบความสำเร็จ ไม่มีสิ่งอื่นที่จะบอกได้เท่าสิ่งนี้ สิ่งสำคัญคือเขาอาจจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งทางจิตใจ โดยเฉพาะในการนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาช่วยเหลือ และนี่อาจจะเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้ นักกีฬาแข็งแกร่ง หากได้ฟื้นฟูทางจิตใจอย่างเต็มที่