มันเป็นความจริงที่ว่า แวร์เนอร์ กำลังจะย้ายไปใช้ชีวิตที่ลอนดอน ดาวเตะชาวเยอรมัน คงเป็นดาวซัลโวของ บุนเดสลีกา ฤดูกาลนี้ หากไม่มี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ยังคงรักษาความไร้เทียมทาน คว้ารองเท้าทองคำลีกเยอรมันเป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน
ไลป์ซิก ยังไม่เคยคว้าแชมป์รายการไหนได้เลยในช่วงที่ผ่านมา โดย Bundesliga.com ต่างก็ชื่นชม แนวรุกของพวกเขา ตลอดเวลาที่ผ่านมา
โดยเฉพาะบุนเดสลีกา 4 ฤดูกาลหลัง แวร์เนอร์ ถือเป็นดาวซัลโวของไลป์ซิก มาตลอดนับตั้งแต่เลื่อนชั้นมาในปี 2016 และมีพัฒนาการขึ้นมาเรื่อยๆ จากปีแรกที่ยิงไป 21 ประตู มาในปีล่าสุดที่เขาทำได้มากกว่าเดิมถึง 7 ประตู ในฤดูกาลนี้
แนวรุกของไลป์ซิก เป็นสิ่งที่ต้องจับตามองตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะบุนเดสลีกา 4 ฤดูกาลหลัง โดยมี แวร์เนอร์ และ ยุสซูฟ โพลเซน เป็น 2 กองหน้า ในระบบ 4-4-2
อย่างไรก็ตาม นาเกิลส์มันน์ เป็นโค้ชที่เตรียมการล่วงหน้าได้ดี และ พาทริค ชิค ที่ยืมตัวมาจากโรมา เมื่อเดือนมกราคม ก็ทำให้เกมรุกของพวกเขาดูน่าสนใจมากขึ้น
ดาวเตะทีมชาติสาธารณรัฐเช็ค ยิงไป 10 ประตู และมีค่าเฉลี่ยยิงได้ทุกๆ 130 นาที จากรอบปีที่ผ่านมา การมี ชิค ในสนาม แวร์เนอร์ จะมีพื้นที่ในแนวลุก และด้านกว้างมากขึ้น และในขณะที่ยิงไป 10 ประตู ในช่วงปี 2020 และอัตราการยิงทุกๆ 138 นาที ทำให้เขาได้เป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง ให้กับ อาร์เบ ไลป์ซิก ในการทำประตู เช่นเดียวกับ ติโม แวร์เนอร์
โพลเซนเองก็มีหน้าที่คล้ายกับ ชิค เช่นกัน หัวหอกชาวเดนส์ มีความสูง 6 ฟุต 3 นิ้ว ถือเป็นคนที่มีรูปร่างที่ดีมากๆ แต่นั่นไม่ได้บอกว่าเขาจะต้องยืนปักหลักอยู่คนเดียว อย่างในฤดูกาลก่อนเขาได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง และทำไปได้ 15 ประตู เป็นรองแค่ แวร์เนอร์ คนเดียวในทีม
กลุ่มผู้สนับสนุน
อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ไลป์ซิก ทำผลงานได้ดี เป็นเพราะพวกเขามี 2 จอมทัพที่ดีที่สุดในยุโรป อย่าง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ โดยกองกลางเฟรนช์แมนอย่าง เอ็นคุนคู ยิงไป 5 ประตู และทำไป 13 แอสซิสต์ ในฤดูกาลนี้ ส่วน ชาวออสเตรียน อย่าง ซาบิตเซอร์ ยิงไป 9 และ 7 แอสซิสต์ และนั่นมีส่วนทำให้ทีมผ่านรอบแบ่งกลุ่มของแชมเปี้ยนส์ลีก หลังจากที่เขายิงประตูใส่ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก และเป็นประตูที่ 4 ของเขาในเวลานั้น และมากกว่าที่ แวร์เนอร์ทำได้
ความจริงที่ว่าการประสานงานของทั้งคู่ในแนวรุก ในช่วงก่อนหน้านี้ ไม่ได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้คนที่ติดตามดูพวกเขาเลย เพราะพวกเขาสามารถสร้างพื้นที่ว่าง และทำประตูได้ นาเกิลส์มันน์ จึงไม่ค่อยกังวลกับทีมเท่าไหร่ และความคาดหวังที่มีต่อตัวชิค ก็คงมีมากขึ้น ในการยืนอยู่ด้านหน้าของ เอ็นคุนคู และ ซาบิตเซอร์ นั้นเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ และเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการทำประตู
การได้ ฮวัง ฮี ชาน มาร่วมทีมก็น่าตื่นเต้น ฤดูกาลก่อน หัวหอกชาวเกาหลีใต้ ทำไป 11 ประตู พร้อม 13 แอสซิสต์ ใน ออสเตรียน บุนเดสลีกา ให้ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก และไลป์ซิก ถือเป็นทางเลือกที่ดี โดยเฉพาะการเติมเต็มแนวรุก ในตำแหน่งตัวเป้า โดยมี ดานี โอลโม อีกรายที่โชว์ฟอร์มได้ดีจนจบฤดูกาล
อเดโมลา ลุคมัน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ดาวรุ่งชาวอังกฤษ เพิ่งได้โอกาสลงสนามแค่เกมเดียวเท่นั้น ตั้งแต่ย้ายกลับมาจากเอฟเวอร์ตัน เมื่อช่วงต้นฤดูกาล แต่ไลป์ซิกก็มีเหตุผล ในการดึงตัวเขากลับมา เพราะในฤดูกาล 2017/18 เขายิงไป 5 ประตู ในขณะที่ถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวไปใช้งาน และทำให้เขามีอัตราการยิงเฉลี่ยทุกๆ 115 นาที และตอนนี้ เขาอาจจะมีโอกาสมากขึ้น
อาวุธลับที่อยู่ในทีมรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี
ไลป์ซิก อาจจะมีการเดินหน้าเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ อย่างแน่นอน แต่ต้องดูว่าใครจะสามารถเข้ามาอยู่กับทีมได้ ซึ่งพวกเขาก็อาจจะมีวอนเดอร์คิด ที่จะก้าวขึ้นมาในอนาคต สักคนสองคนจากทีมเยาวชน
เดนนิส โบร์โคว์สกี้ เพิ่งอายุครบ 18 ปี เมื่อเดือนมกราคม แต่ในฤดูกาลนี้ เขาได้ลงเล่นในบุนเดสลีกา U19 พร้อมยิงไป 11 ประตู จากการลงสนาม 16 นัด และได้เป็นตัวจริงถึง 14 เกม โบร์โคว์สกี้ ติดทีมชาติเยาวชนของเยอรมัน และยิงไปได้ 2 ประตู จากการลงเล่น 3 นัดให้กับเยอรมัน U16 ของ มิคาเอล ไฟชเตไบเนอร์ และด้วยความสูง 6 ฟุต อาจจะทำให้เขาขึ้นมาเล่นร่วมกับ ชิค
อย่างไรก็ตาม ดาวรุ่งชาวนอร์วีเจียน อย่าง โนอาห์ โฮล์ม ก็ยิงไป 7 ประตู จาก 18 เกม จากการลงสนามเป็นตัวจริง 15 นัด แม้เขาจะไม่ได้มีร่างกายที่สูงใหญ่เหมือนเพื่อนร่วมทีมของเขา
แผนเอ ในเกมรุกของ นาเกิลส์มันน์ อาจจะต้องเสียให้พรีเมียร์ลีกไป แต่ในทัวร์นาเมนต์ ที่ลิสบอน แผนบี, แผนซี หรือ แผนดี อาจจะสร้างความสะพรึงให้กับคู่ต่อสู้ทุกทีมที่ต้องเจอกับทีมพวกเขา
