สิงโตน้ำเงินครามจัดการแก้ไขปัญหาในตำแหน่งต่างๆในตลาดซื้อขายนักเตะ และถือว่าเป็นผู้นำที่โดดเด่น ในตลาดซื้อขายนักเตะครั้งนี้ หลังจากที่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา พวกเขาต้องถูกแบนห้ามซื้อนักเตะมาเสริมทีม
เชลซี ได้แสดงเจตนารมณ์ ที่ต้องการกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังคว้าตัว ฮาคิม ซิเยค มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ต้องด้วยการเบียดเอาชนะหลายทีม ในการคว้าลายเซ็นของแวร์เนอร์ จาก อาร์เบ ไลป์ซิก ที่มีการประกาศไปอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
การลงทุนครั้งล่าสุด กับ 2 นักเตะใหม่ของเชลซี ได้รับเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก ในการทำให้ทุกคนต้องหันมามองพวกเขาในฤดูกาล 2020/21 ซึ่งแวร์เนอร์ จะเข้ามาเพิ่มความเร็วและการทำประตูในแนวรุก สำหรับแฟรงค์ แลมพาร์ด ซิเยค เองก็เต้มไปด้วยเทคนิค และความสามารถที่แพรวพราว
เรามาดูกันว่า อาแจ็กซื ได้รับประโยชน์จากความฉลาดของ ซิเยค มากมายแค่ไหนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และมันมีความหมายมากต่อเชลซี
ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่อาแจ็กซ์ ซิเยค เป็นเพลย์เมกเกอร์ที่มีคุณภาพสูง หลังทำแอสซิสต์ไปถึง 51 ครั้ง จากการลงสนามในเอเรดิวิซี่ ลีก ทั้งหมด 112 นัด นั่นแปลว่าทุกๆ 2 เกมเขาจะทำได้อย่างน้อย 1 แอสซิสต์
โดยฤดูกาลที่ ดาวเตะชาวโมร็อคกัน สร้างโอกาสได้มากที่สุดเกิดขึ้นในฤดูกาล 2017/18 หลังเขาสร้างโอกาสทำประตูได้ถึง 15 ครั้งและ 2 ฤดูกาลหลังจากนั้น เขาก็ทำได้ 13 และ 12 ครั้ง แม้อาจจะไม่ใช่ทุกแมตช์ แต่เขาก็มีส่วนร่วมเกือบทุกประตูของทีม ดยเฉพาะในฤดูกาลทีผ่่านมา ที่เขามีส่วนร่วมกับประตูถึง 22 ครั้ง
ดาวเตะวัย 27 ปี ถือเป็นตัวหลักของอาแจ็กซ์ ในด้านขวา โดยสไตล์ของเขา คือลากตัดเข้ามา และโจมตีด้วยเท้าซ้ายของเขา บางเกมเขาก็ถูกจับไปเล่นด้านซ้ายบ้าง รวมถึงตรงกลาง อย่างไรก็ตามบางครั้งเขาก็ถูกจับไปเล่นตรงกลางสนามเลย
อย่างไรก็ตาม เขาไม่น่าจะได้รับบทบาทนี้ในทีมของแลมพาร์ด โดยคิดว่า เขาน่าจะยืนเป็น 3 ตัวรุกแดนบนของแลมพาร์ด โดยจะใช้ความสามาถรของซิเยค ในพื้นที่สุดท้าย ในการทำแอสซิสต์ และทำลายแนวรับคู่ต่อสู้เหมือนที่เขาเคยทำได้กับ อาแจ็กซ์ โดยเดวิด เนเรส คือผู้เล่นที่เขาแอสซิสต์ให้ทำประตูได้มากที่สุด ถึง 8 ครั้งอ้างอิงจาก Whoscored
โดยทั่วไป เนเรสมักจะเล่นเป็นปีกซ้าย ที่มักจะตัดเข้ากลาง ซีเยคมีความเข้าขากับนักเตะชาวบราซิลเลียน เป็นอย่างดี โดยมักจะจ่ายตัดหลังให้
บางที จำนวน 8 แอสซิสต์ ที่เขาทำได้ มันอาจจะสูงกว่านี้ หากเนเรส ไม่ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างหนักไปเสียก่อน จากเกมแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่อาแจ็กซ์ เสมอกับ เชลซี ไป 4-4
ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งก็คือการได้ตัวของแวร์เนอร์มาร่วมทัพ หัวหอกวัย 22 ปี ได้รับบทบาทเป็นตัวเป้าของ ไลป์ซิก เคียงข้าง ยุสซุฟ โพลเซน แต่หลายครั้งที่เขามักจะถูกจับไปเล่นเป็นปีกซ้าย ในการเล่นเกมโต้กลับ
ยามที่ไลป์ซิก ต้องตั้งรับลูกตั้งเตะ แวรเดอร์ มักจะยืนเบี่ยงไปทางด้านซ้าย และรับบอลจากแนวรับที่สกัดออกมาได้ ก่อนจะลากไปยิงด้วยเท้าขวาางถนัด
หัวหอกทีมชาติเยอรมัน ซัดไป 6 ประตู จาก 10 เกมที่เขาเล่นด้านซ้าย ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ บุนเดสลีกา ระบุไว้ และด้วยความสามารถของซิเยค ที่มีการตัดสินใจที่รวดเร็วยามครองบอล และพร้อมที่จะครอสเปลี่ยนบอล ในขังหวะโต้กลับ ซิเยค กับ แวร์เนอร์ จะกลายเป็นกุญแจสำคัญในการเล่นของเชลซีในฤดูกาล 2020/2011
ที่น่าสังเกตคือ ซิเยค สร้างโอกาสให้ แบ็คซ้ายอย่าง นิโคลัส ตาเกลียฟิโก้ ยิงได้ภึง 3 ครั้งและก็มีข่าวลือว่าอาจจะย้ายมาสแตมฟอร์ด บริดจ์
ซีเยคยังได้ แอสซิสต์ 6 ครั้งให้ คลาส แยน ฮุนเตลาร์ และ แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก และ 3 ครั้งให้กับ ดูซาน ทาดิช แสดงให้เห็นว่า อดีตดาวเตะของทเวนเต้ คือตัวแอสซิสต์จากตำแหน่งกองกลางตัวรุก
ขณะที่นักเตะรายอื่น ที่เขาสร้างโอกาสให้ก็มีทั้ง ดอนนี ฟาน เด บีค (3), ควินซี โพรเมส (3) และ จัสติน ไคลเวิร์ต (4) ข้อมูลจาก Whoscored
แฟนบอลเชลซี คงจะรู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับการประสานงานในเกมรุกของซิเยค และ แวร์เนอร์
สมมติว่า ซิเยค เข้ามาแทนที่ของวิลเลียน ทางด้านปีกขวาของเชลซี ในระบบ 4-3-3 ที่กำลังจะหมดสัญญษ เขาจะมีอิสระในการลากตัดเข้าใน และมองหา กองหน้าชาวเยอรมัน ที่มีประสิทธิภาพการจบสกอร์ค่อนข้างสูง
ซิเยค ควรจะหาโอกาสประสานงานกับ คริสเตียน พูลิซิช หรือ คัลลัม ฮัดสัน โอดอย ขึ้นอยู่กับว่าใครจะได้โอกาสเล่นเป็นอีกซ้าย
แน่นอนมาการเข้ามาของ จอมสร้างโอกาสจากอาแจ็กซ์ อาจจะทำให้แลมพาร์ด เปลี่ยนไปใช้ระบบ 4-2-3-1 ซึ่งเข้าใช้ประจำที่ ดาร์บี เคาน์ตี้ซึ่งการมี ซิเยค จะทำให้สามแนวรุกที่เหลือหลังกองหน้าแข็งแกร่งขึ้น
การเข้ามาของซิเยค น่าจะเพิ่มประสิทธิภาพของเชลซี สิงห์บลูไม่ใช่แค่ได้ เพลย์เมกเกอร์ ที่เล่นในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังเพิ่มทางเลือกต่างๆเกี่ยวกับแท็คติกของแลมพาร์ด
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความสามารถของผู้เล่นหมายเลข 22 ของอาแจ็กซ์ ยังจะเพิ่มความน่ากลัวของแนวรุกฝั่งซ้าย โดยเฉพาะตัวของแวร์เนอร์สำหรับเชลซี
การมีทั้ง ซิเยคและแวร์เนอร์ในเกมรุก และยังไม่รู้ว่าจะมีใครเข้ามาเสริมอีกในช่วงซัมเมอร์ ทำให้เชลซี มีทีมที่พร้อมจะท้าทายแชมป์ กับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลหน้า
แน่นอนว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ สำหรับเชลซี ที่พร้อมจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ แต่ในฤดูกาลหน้า หมัดซ้ายหมัดขวาอย่าง ซิเยค-แวร์เนอร์ จะทำให้เกมรุกของสิงห์บลูสนุกขึ้นแน่
