ฤดูกาลดังกล่าว มีนักเตะไม่กี่คนที่ถูกนำไปพาดหัวข่าว เริ่มจาก อันเดร โอนาน่า ประตูจอมเก๋า และบรรดาดาวรุ่งอย่าง มัตไตจ์ เด ลิกต์ และ เฟรงกี้ เด ยอง กลายเป็นดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด และมีข่าวลือว่าจะย้ายมาค้าแข้งที่ คัมป์ นู ในช่วงซัมเมอร์ หลังจากที่ เดือนมกราคม 2019 การย้ายทีมไม่เกิดขึ้น
สุดท้าย โฆเซป มาเรีย บาร์โตมิว ตัดสินใจ ควักเงิน 75 ล้าน สำหรับ นักเตะวัย 21 ปี มิดฟิลด์ดาวรุ่ง ก้าวเข้ามาท่ามกลางคำถามมากมาย และถูกคาดหวังว่าจะเข้ามาแทนตัวเก๋า ที่เริ่มดร็อปลงไปอย่าง เซร์คิโอ บุสเกสต์ รวมถึง อิวาน ราคิติช และ อาร์ตูโร่ วิดัล ในปี 2019 ทีมดูดีขึ้นเมื่อเดยอง เข้ามา
แต่ดาวเตะชาวดัตช์ กลายเป็นคนที่แตะต้องไม่ได้เลยในปี 2020 ด้วยวัย 23 ปี เขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทุกนัดภายต้การคุมทีมของอดีตโค้ชทีมชาติของเขา อย่าง โรนัลด์ คูมัน ที่ส่งเขาลงสนามเกือบครบ 900 นาที และได้พักไปเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น ด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดคำถาม ว่ามันเป็นเรื่องดีใช้หรือไม่ คูมันเห็นอะไรจากนักเตะคนนี้ อะไรคือเหตุผลที่เขาได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง
คูมัน และนักเตะคนโปรด
ด้วยความคิดที่ชัดเจน ของคูมัน จึงต้องการสร้าง ทัพกาตาลุนญา ด้วยระบบ 4-2-3-1 ซึ่งสามารถหมุนเวียนกันได้ในแดนกลาง โดยรากฐานสำคัญของระบบนี้ คือ เฟรงกี้ เด ยอง ที่ทำให้เขามีอิสระ ในการสร้างสรรค์เกม โดยทีมถูกสร้างขึ้น ตามความสามารถของเด ยอง ซึ่งเมื่อเทียบกับ ฤดูกาล 2019/20 ตอนนี้เขากลายเป็นคนที่สำคัญที่สุดภายในทีม
มันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สำหรับตำแหน่งกองกลาง ที่คูมัน จะตัดเขาออกจากทีมไม่ได้ ในความเป็นจริงกุนซือชาวดัตช์ ไม่ต้องการนำ เฟรงกี้ เด ยอง ออกจากทีมตัวจริง กุนซือชาว 57 ปี หลงรักนักเตะคนนี้ นอกจากเหนือจาก ลิโอเนล เมสซี และ เปดรี้
มีนักเตะเอาท์ฟิลด์ เพียงแค่ 2 คนเท่านั้นที่ได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่รอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2019 คูมันก็มีนักเตะคนโปรดของเขา และไม่สามารถตัดนักเตะคนนั้นออกจากทีมได้ การที่จะเอา เด ยอง ออกจากทีม อาจจะสร้างปัญหาอย่างมากสำหรับกุนซือคนใหม่
เฟรงกี้ ต้องแข่งขันกับใคร
เราต้องดูขุมกำลังทั้งหมดของทีม และมันพิสูจน์แล้วว่า คูมัน มีตัวเลือกที่ค่อนข้างมาก แต่กองกลาง ของบาร์เซโลนา ไม่ได้มีคุณสมบัติตามที่เขาต้องการ
เซร์คิโอ บุสเกสต์ ได้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว มิราเลม ปานิช ก็ยังต้องใช้เวลาปรับตัว ริกี้ ปูอิก และ การ์เลส อเลนา ก็ยังฝากความหวังไม่ได้สำหรับคูมัน นี่คือคนที่พร้อมจะแย่งตำแหน่งตัวจริงของ เด ยอง ที่ได้รับความเชื่อมั่นจาก คูมัน สูงมาก แต่ด้วยวัย 23 ปี มันยังรับประกันอะไรไม่ได้เลย ว่า เด ยองจะเป็น มิดฟิลด์ที่ดีที่สุดของคัมป์ นู หากผู้จัดการทีมของเขาต้องการกองกลางตัวรับ 2 คน
ด้วยวัย 33 ปี ของบุสเกสต์ แต่เขาก็ยังได้ลงต่อเนื่อง ปานิช ไม่ใช่คู่แข่งของ เฟรงกี้ เด ยอง เขาคือพาร์ตเนอร์มากกว่า การเปลี่ยนตัวออกถึงสองครั้งของ คูมัน แสดงให้เห็นว่าเขายังไม่เชื่อใจคนอื่นเท่าเด ยอง ที่กลายเป็นนักเตะที่แตะต้องไม่ได้
อย่างไรก็ตาม คนเป็นโค้ชต้องมองหาสิ่งใหม่ๆ แม้ว่าดาวเตะชาวดัตช์จะเป็นกองกลางที่ดีที่สุด เนื่องจากพวกเขายังขาดขุมกำลังเชิงลึกในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค ทำให้ เด ยอง ยังมีอิสระไม่มาก อย่างเกมกับ ยูเวนตุส กองกลางดาวรุ่ง โดนจับไปเล่นร่วมกับ เคราร์ด ปิเก้ ในครึ่งหลัง และเขาก็ทำได้ดี และเล่นเหมือนกับคูมัน สมัยเป็นนักเตะ
กองกลางตัวกลางของ บาร์เซโลนา แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติในเกมรับ และเป็นเหมือนตัวแทนของคูมัน เด ยอง เล่นเป็นกองหลังได้ และมีโอกาสลงสนามได้อย่างต่อเนื่อง เขากล้าการัตีกับโค้ชว่า การมีเขาอยู่ในสนาม ย่อมดีกว่าอยู่ที่ม้านั่งสำรอง
เด ยอง ดีขึ้นบ้างไหม
สรุปว่าการได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ของ เด ยอง เกิดจากปัญหาที่ทีมมีขุมกำลังเชิงลึกไม่มากเพียงพอ และผู้จัดการทีมก็มีนักเตะคนโปรด หลังจากที่ทีมออกสตาร์ท ได้น่าผิดหวัง แต่ ดาวเตะชาวดัตช์ กลายเป็นนักเตะที๋โดดเด่นที่สุดคนหนึ่ง เป็นรองเพียงแค่ ลิโอเนล เมสซี
เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่นักเตะคนโปรดของคูมัน แต่มีอิทธิพลในห้องแต่งตัว แคแรคเตอร์ของเขาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม เขาไม่ได้ล้ำเส้นใคร เขาเป็นเหมือนสิ่งที่ขาดไม่ได้ในสนาม
เด ยองมีสิ่งที่ทำได้น่าประทับใจมากมายในปีนี้ หลังแสดงให้เห็นถึงคุณภาพทั้งยามมีบอล และไม่มีบอล และเล่นได้หลายบทบาท ในเกมเกมเดียว มันไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างเกมที่ต้องเจอกับ ยูเวนตุส ที่เขาต้องเล่นกับ โรนัลด์ อเราโญ ก็ถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม
หรืออย่างเกม กับ เฟเรนซ์วารอส เขาก็แสดงความรู้ใจกับ อันซู ฟาติ ออกมา เกมนี้เป็นตัวที่แสดงให้เห็นว่า เด ยอง คือคนที่ขาดไม่ได้ ในด้านเกมรุก ดาวเตะชาวดัตช์ คือตยที่กำหนดว่าจะโจมตีจุดไหน และส่วนใหญ่มันก็เริ่มต้นจากเขา
นอกจากนี้ ในทุกเกม ดาวเตะวัย 23 ปี เริ่มมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะเกมรุกของบาร์เซโลนา ที่พยายามเน้นโจมตีทางฝั่งซ้าย และนั่นคือเหตุผลหลัก มันเกิดจากความมหัศจรรย์ของเขา เห็นได้ชัดที่ทีมโจมตีทางฝั่งซ้าย ทั้งเกมกับ บียาร์เรอัล, เซลต้า บีโก้, ยูเว่ หรือ เฟเรนซ์วารอส เดยอง เป็นกองกลางคนสำคัญที่สุดของทีม เขาคือคนที่พยายามถ่ายบอล และทำให้ ฟาติ และ ฆอร์ดี้ อัลบ้า สร้างความอันตราย
ด้วยการเล่นแบบนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเด ยอง ที่บางครั้งทีมอาจจะแพ้บ้าง แต่มันเป็นไปได้เสมอ ที่นักเตะทุกคนจะมองหาเด ยอง ในการออกบอล ราวกับเป็นผู้นำเกมรุก
ภายใต้ การคุมทีมของ คูมัน เฟรงกี้ เด ยอง ไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นแค่ลักษณะทางร่งกาย แต่เขายังดูมีความเป็นผู้นำมากขึ้น เขาอาจจะไม่ได้ ตะโกนเสียงดัง แต่เขาคือผู้นำทางเทคนิค ไม่มีอะไรที่จะต้องพิสูจน์ ว่าทำไม เด ยอง ควรได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่อง กองกลางชาวดัตช์ เป็นมิดฟิลด์ที่ยอดเยี่ยม และบางที เขาอาจจะได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องที่คัมป์ นู มากกว่านี้