มันเป็นเพราะ เป็ป กวาร์ดิโอลา คือผู้เปลี่ยนจากจากเด็กหนุ่มมากพรสวรรค์ คนหนึ่งสู่การเป็นนักเตะที่ดีที่สุด ตลอดกาล และ มันมีการพูดกันเยอะมาก ถึงการกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง
เฟร์ราน โซเรียโน และ ซิกิ เบกิริสไตย์ คือ 2 ผู้บริหารคนสำคัญ ในความสำเร็จของบาร์เซโลนา เมื่อปี 2009 ซึ่งปีนั้น โค้ชก็คือ เป็ป กวาร์ดิโอลา และ มีเมสซี เป็นตัวเอก ตอนนี้ทุกคนต่างอยู่ที่แมนซฺตี้
การประชุมเต็มไปด้วยความเข้มข้น การจัดการระดับสูง และกลายเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุด ที่เคยมีมา
หลังจากที่เอาชนะยูฟ่า ที่ศาลอนุญาโตตุลาการได้ พวกเขาก็มีความกล้าที่จะทุ่มเงินก้อนโต เพื่อคว้าตัว เมสซี มาช่วยให้ ซิติ้ ลดช่องว่าง ระหว่างพวกเขากับ ลิเวอร์พูล ในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ แมนซิตี้ และ เมสซี ต่างมีเป้าหมายเหมือนกันก็คือการคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองให้ได้ เพื่อแมนซิตี้, กลุ่มทุนจากยูเออี ในการคว้าแชมป์รายการที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสโมสร ซึ่งถือเป็นการพิสูจน์ว่าสิ่งที่พวกเขาลงทุนทีความคุ่มค่า
เขาไม่ได้แชมป์ยุโรป มาครองเลย สำหรับเมสซี นับตั้งแต่ปี 2015 เขาคว้าแชมป์รายการนี้ มาครองทั้งหมด 4 ครั้ง เป็นรองคู่ปรับตลอดกาลอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ ที่ทำไป 5 ครั้ง นั่นเป็นสิ่งที่เขามีปัญหากับ บาร์เซโลนา และต้องการออกจาก คัมป์ นู
แต่ในแชมเปี้ยนส์ลีก คุณเริ่มเห็นความไม่ลงรอยกัน ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิโอเนล เมสซี
เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2011 ในขณะที่ เมสซี กำลังลงป้องกันแชมป์เนครั้งที่ 3 ในการเป็นนักเตะฟุตบอล ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แมนซิตี้ ได้เล่นไปทั้งหมด 79 เกม เกินจำนวนเกมครึ่งหนึ่งที่เมสซี เล่นในรายการนี้ 143 ครั้งแค่นิดเดียว
เมสซี ทำไป 115 ประตู ในการแข่งขันรายการนี้ ขณะที่ทีม ทำไปได้ 94 ประตู โดยส่วนใหญ่มาจาก เซร์คิโอ อเกวโร, ราฮีม สเตอร์ลิง, กาเบรียล เฆซุส, ดาวิด ซิลบา, ยาย่า ตูเร่ และ เควิน เด บรอยน์
และที่สำคัญมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ที่แมนซิตี้ไปได้ไกลกว่า บาร์ซา นั่นก็คือฤดูกาล 2015/16 นั่นคือประเด็นสำคัญของคำถามที่ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สมควรเป็นปลายทางของ เมสซี หรือไม่ ถ้าหากเขาต้องการจะประสบความสำเร็จมากกว่าเดิม
สถิติของ เป็ป กวาร์ดิโอลา ในบอลยุโรป เริ่มลดลงนับตั้งแต่เขาออกจากบาร์เซโลนา และนั่นเป็นเพราะตัวของเขาเอง
เขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่น กับ บาเยิร์น มิวนิค และมีโอกาสพาทีมไปป้องกันแชมป์ยุโรปในปีแรก แต่สุดท้าย เขาก็ไม่สามารถพาทีมไปได้ไกลกว่ารอบ 8 ทีมสุดท้าย และการพ่ายแพ้ส่วนใหญ่ก็มาจากการวางแท็คติกของเขา
รูปแบบเหล่านั้น ยังดำเนินต่อไป กับแมนฯซิตี้ กวาร์ดิโอลา ตกรอบปีแล้วปีเล่าในบอลยุโรป ด้วยน้ำมือของทีมอย่าง สเปอร์ส, ลียง และ โมนาโก ซึ่งพวกเขาควรจะผ่านไปได้ เป็นอีกครั้ง ที่เสียงวิจารณ์มีต่อตัวกวาร์ดิโอลา ที่คิดมากเกินไป
ดังนั้นการย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาจจะทำให้ เมสซี อยู่ห่างไกลกับสิ่งที่เขาต้องการมากขึ้น นั่นก็คือการคว้าแชมป์ยุโรป แต่คงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่จะไม่ได้เห็นวันคลับแมนอีกครั้ง ด้วยเหตุผลในเรื่องของกีฬา