“เจ้าลูกหนังเมืองมะกะโรนี” ได้เป็นสมัยที่ 9 ติดต่อกัน แต่กลับไม่เพียงพอสำหรับการรักษาเก้าอี้กุนซือของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ โค้ชเฒ่าชาวอิตาเลียนที่เพิ่งก้าวเท้าเข้ามาคุมทัพได้เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น เพราะเป้าหมายสูงสุดของ ยูเว่ คือการคัมแบ็กกลับไปครองความเป็น “เจ้าสโมสรยุโรป” อีกครั้งหนึ่ง หลังร้างรามานานถึง 26 ปีแล้ว นับตั้งแต่หนสุดท้ายที่ชูถ้วยแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 1996
ทว่า ซาร์รี่ กลับนำทัพ “ม้าลาย” จอดป้ายเพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แบบสิ้นลายยักษ์ใหญ่แห่งวงการลูกหนังอิตาลี แม้จะสามารถเปิดบ้านยิงแซงเฉือนชนะ “โอแอล” โอลิมปิก ลียง ทีมดังจากลีก เอิง ฝรั่งเศส 2-1 ในเกมนัดที่ 2 และเมื่อรวมผล 2 นัด เสมอ 2-2 แต่กลับตกรอบด้วยกฎประตูทีมเยือน เพราะนัดแรกบุกไปพลาดท่าแพ้มาก่อน 0-1 ทำให้บอร์ดผู้บริหารของ ยูเวนตุส ประกาศปลดโค้ชเฒ่าวัย 61 ปีออกจากตำแหน่งในช่วงหลังตกรอบเสียเลย.
หากจะว่าไปแล้ว “ม้าลาย” ตั้งท่าพร้อมที่จะไล่ตะเพิด ซาร์รี่ มาได้สักพักหนึ่งแล้ว เพราะมีรายงานว่าพวกขาใหญ่ในสโมสรไม่ค่อยปลื้มสไตล์การคุมทัพของอดีตกุนซือ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เสียเท่าไรนัก โดยเฉพาะผลงานในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ช่วงท้ายฤดูกาล 2019/2020 ที่ไม่พบกับชัยชนะหลายเกมเลย จึงตัดสินใจไล่ออกจากตำแหน่งไปเลยดีกว่า แม้จะมีข่าวตามหน้าสื่อหลายสำนักว่าเตรียมทาบทามกุนซือฝีมือดีให้เข้ามารับงานคุมทีม และมีรายชื่อของ “พอช” เมาริซิโอ โปเชตติโน่ โค้ชว่างงานชาวอาร์เจนไตน์เป็นตัวเต็งในอันดับต้นๆ หลังจากที่เคยฝากผลงานนำทัพ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส ทีมดังจากอังกฤษไปถึงตำแหน่งรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาล 2018/19 ได้แบบพลิกความคาดหมาย
แต่สุดท้าย ยูเวนตุส กลับประกาศแต่งตั้ง อันเดรีย ปิร์โล่ อดีตกองกลางทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 เป็นกุนซือคนใหม่แบบพลิกโผ เพราะไม่เคยผ่านงานคุมทีมลูกหนังมาก่อนเลยเสียด้วยซ้ำ นับตั้งแต่ “แขวนสตั๊ด” เลิกอาชีพค้าแข้งในปี 2017 และเพิ่งเซ็นสัญญาคุมทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีได้เพียงไม่กี่วันด้วย โดย ฟาบิโอ ปาราติซี่ ผู้อำนวยการกีฬาของ “ม้าลาย” เปิดเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจเลือกโค้ชมือใหม่วัย 41 ปีเป็นเพราะเรื่องของฟุตบอลในยุคสมัยใหม่ที่ให้อดีตนักเตะระดับตำนานของสโมสรมาทำหน้าที่คุมทีมด้วย ทำให้ ปีร์โล่ ซึ่งเคยค้าแข้งกับ “ม้าลาย” ระหว่างปี 2011-2015 กลายเป็นตัวเลือกอันดับแรกไปเลย
“การตัดสินใจเลือก ปีร์โล่ เป็นไปตามแนวทางของ ยูเวนตุส เลย เพราะว่าเขาเคยเป็นอดีตนักเตะของเรามาก่อน เรามีการพูดคุยเรื่องนี้กันมาสักพักหนึ่งแล้ว และเขาก็มีสัญญากับสโมสรอยู่แล้ว เราคิดว่าเป็นเรื่องที่มากๆ เรามั่นใจว่าเขาจะคุมทีมได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนอย่างตอนสมัยที่เป็นนักฟุตบอล”
ทั้งนี้ ปีร์โล่ จะได้เดินตามรอยเท้าของพวกกุนซือที่เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลระดับตำนานในรุ่นราวคราวเดียวกัน และได้รับการแต่งตั้งให้คุมทีมต้นสังกัดเก่าของตัวเองกันเป็นแถว ไม่ว่าจะเป็น ซีเนอดีน ซีดาน ตำนานจอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งเคยค้าแข้งกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ระหว่างปี 2001–2006, โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อดีตสุดยอดกองหน้าตัวสำรองทีมชาตินอร์เวย์ ซึ่งเคยค้าแข้งกับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างปี 1996–2007 รวมถึง แฟรงค์ แลมพาร์ด อีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเคยค้าแข้งกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ระหว่างปี 2001–2014 เป็นต้น
ตอนนี้ ปีร์โล่ ได้เรียนจบหลักสูตรโค้ชของ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า เรียบร้อยแล้ว และได้รับใบอนุญาตระดับ UEFA Pro License จึงสามารถคุมทีมในเกมระดับสโมสรยุโรปตามกฎกติกาได้เลย แม้ตอนนี้จะยังไม่มีใครรู้ว่าโค้ชมือใหม่วัย 41 ปีจะคุมทีมด้วยรูปแบบไหน แต่เคยมีรายงานว่า ปีร์โล่ เคยบอกกับ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งตอนนี้สวมบทเป็นกุนซือ กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ ในลีกลูกหนังจีนเอาไว้ว่า หากมีโอกาสได้คุมทีมจะใช้แผนการเล่นแบบ 4-3-3 โดยจะให้ผู้เล่นทุกคนเคลื่อนที่ไปข้างหน้า และจะเน้นการครอบครองบอลด้วย
โปรดติดตามกันต่อไปว่า “ม้าลาย” ในยุคของโค้ชมือใหม่ตามแบบสมัยนิยมจะสามารถไปถึงฝั่งฝันตามที่วาดหวังเอาไว้ได้หรือไม่
