หน้าแรกหัวข้อโปรเจคต์ Big Picture : การวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับการปฏิวัติครั้งใหญ่ของพรีเมียร์ลีก

โปรเจคต์ Big Picture : การวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับการปฏิวัติครั้งใหญ่ของพรีเมียร์ลีก

ดังที่กล่าวไป มันจึงมีแผนใหม่เกิดขึ้น ซึ่งจะปฏิรูปโครงสร้างให้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น และ ถูกเรียกว่าเป็น โปรเจคต์ Big Picture ซึ่งในอีกไม่กี่เดือน และหลายปีข้างหน้า มันจะมีการถกเถียงกันในวงกว้าง สำหรับ ทีมฟุตบอล, แฟนบอล และ นักวิจารณ์

ในข้อเสนอของโปรเจคต์ Big Picture บางส่วนกัน

จำนวนทีมในพรีเมียร์ลีก จะถูกตัด

มันจะเหลือเพียงแค่ 18 ทีมเท่านั้นในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น ภายใต้แผนใหม่นี้จะลดจำนวนทีมจากปัจจุบันที่ 20 ทีมลงไป ในแต่ละฤดูกาล 2 ทีมอันดับล่างสุด จะตกชั้น ส่วนอันดับ 16 จะต้องเพลย์ออฟกับทีมจากแชมเปี้ยนส์ลีก เพื่อชิงโอกาสเล่นในลีกสูงสุด

วิธีที่พวกเขาวางแผนที่จะดำเนินการเปลี่ยนแปลงเรื่องดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน แต่มีสถานการณ์ที่เป็นไปได้ในบางประการ บางที EFL อาจจะไม่ให้ทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก และให้สองทีมจากลีกสูงสุดตกชั้นลงมา หรือจะเพิ่มจำนวนทีมตกชั้น เป็น 5 ทีม และ ให้การเลื่อนชั้นจากแชมเปี้ยนชิพเป็นเหมือนเดิม

ควรสังเกตว่าจำนวนของแชมเปี้ยนชิพ ลีกวัน และ ลีกทู จะยังคงเดิมที่ ลีกละ 24 ทีม ดังนั้นดูเหมือนว่าลีกทั้งหมดจะคงไว้ซึ่ง 24 ทีม นั่นหมายความว่าจะมีสองทีมที่โดนขับออกไปเล่นนอกลีก

ด้วยจำนวนทีมที่น้อยลง ส่งผลให้การแข่งขันน้อยลง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะทำให้พรีเมียร์ลีก มีความคล้ายคลึงกับบุนเดสลีกา

โปรเจคต์ Big Picture : การวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับการปฏิวัติครั้งใหญ่ของพรีเมียร์ลีก หัวข้อ
latimes.com

2 ทัวร์นาเมนต์ อันเก่าแก่ ที่ถูกยกเลิก

การยกเลิกทั้ง ลีก คัพ และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งมากในโปรเจคต์ Big Picture เป็นเวลานาน ที่ทั้งสองรายการ อยู่คู่กับฟุตบอลอังกฤษ และมันคงน่าเสียดาย หากมันจะหายไป

ลีก คัพ ตอนนี้ถูกเปลี่ยนเป็น คาราบาว คัพ และเคยเป็น EFL คัพ แต่ถูกเปลี่ยนชื่อตามสปอนเซอร์ ก่อนหน้านี้ก็คือ แคปิตอล วัน คัพ และ ก่อนหน้านั้น ก็ คาร์ลิง คัพ และก่อนหน้านั้นก็มีชื่ออีกมากมายเป็นเวลาหลายปีแล้ว ที่ลีก คัพ อยู่คู่กับพรีเมียร์ลีก อย่างสมบูรณ์แบบ และมันน่าเสียดายที่มันจะหายไป

ในขณะเดียวกัน คอมมิวนิตี้ ชิลด์ หรือชื่อเดิมอย่าง แชริตี้ ชิลด์ ก็เป็นอีกหนึ่งทัวร์นาเมนต์ที่น่าสนใจมากตลอด เพราะมันคือเกมก่อนที่ฤดูกาลใหม่จะเริ่มขึ้น โดยนำทีมแชมป์ เอฟเอ คัพ มาเจอกับ แชมป์ลีก เป็นเกมกระชับมิตรที่มีศักดิ์ศรี และเป็นเกมที่ดีสำหรับการทดสอบทีมหลังผ่านปรีซีซั่นมา เราสามารถเรียนรู็เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ จากการเห็นสองทีมระดับท็อป มาเจอกัน

แม้ว่ามันจะมีข้อดี แต่การกำจัดทัวร์นาเมนต์เหล่านี้ และยกเลิกการแข่งขันบางหลายการก็ไม่ได้ทำให้แฟนบอลหลายคนต้องเสียใจ

โปรเจคต์ Big Picture : การวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับการปฏิวัติครั้งใหญ่ของพรีเมียร์ลีก หัวข้อ
thefa.com

ข้อได้เปรียบของท็ฮปทีม

โปรเจคต์ Big Picture ยังรวมถึงข้อกำหนดที่ให้สิทธิ์แก่ 9 สโมสรที่เก่าแก่ ในการลงคะแนนให้พิเศษในการประชุมของพรีเมียร์ลีก โดยประกอบไปด้วย 6 สโมสรชั้นนำอย่าง เชลซี, อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึง สเปอร์ส และยังรวมทีมอย่าง เอฟเวอร์ตัน, เวสต์แฮม และ เซาแธมป์ตัน ด้วย สโมสรเหล่านี้จะมีอำนาจมากขึ้นในการตัดสินใจและเพิ่มอิทธิพลให้กับพวกเขาภายในลีก เพื่อแลกกับการจัดหารเงินทุนเพิ่มเติม เพื่อรักษาเสถียรภาพของ EFL และ FA ภายในสโมสรเหล่านี้ จะมีพลังมากกว่าทีมอื่น แน่นอนว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาในระยะยาว

ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยในพรีเมียร์ลีก

แม้ว่าแผนนี้จะได้รับการรับรองจาก EFL แต่สมาคมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ก็ออกมาต่อต้านในที่สาธารณะ พวกเขาเน้นย้ำในแถลงการณ์อบ่างเป็นทางการถึงความจำเป็นที่พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ จะต้องหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ไวรัสแพร่ระบาด

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอ Big Picture จำนวนมาก เพราะมันจะได้รับผลกระทบในทางที่แย่มากกว่า และพวกเขายังแสดงความผิดหวังกับตัวของ ริค แพร์รี ประธาน EFL ที่ให้การรับรองแผนดังกล่าว

แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเหล่านี้ จะดูเหมือนมีประโยชน์ แต่บางอย่างก็ดูแตกแยก และอย่างที่เราเข้าใจ ก็สามารถเปลี่ยนโฉมหน้าของพรีเมียร์ลีกได้ แน่นอนว่ามันดูขัดแย้งกัน แต่อย่าเข้าใจผิด ว่า โปรเจคต์ Big Picture ที่ล่มไปแล้วจะไม่กลับมาอีก เราจะได้ยินชื่อโปรเจคต์นี้อีกอย่างแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -

ที่นิยมมากที่สุด