ห้า แท็คติกที่เราได้เห็นจากเกมสุดสัปดาห์นี้
การเปลี่ยนไปใช้ระบบ ไดมอนด์ ของร็อดเจอร์ส ในการเปลี่ยนแปลงเกมของจิ้งจอกสยาม สำหรับ 70 นาทีแรกที่ได้ดูเลสเตอร์ เล่นมันน่าผิดหวังมาก แม้ว่าหลายครั้ง ศูนย์หน้าของพวกเขาอย่างเจมี วาร์ดี้ จะเก็บบอลยาวได้ และเผชิญหน้ากับแนวรับของลิเวอร์พูล เป็นครั้งคราว แต่การโต้กลับไม่สามารถทำอะไร หงส์แดงได้เลย เพราะโดนเพรสซิ่งเก็บกินได้ทั้งหมด
แต่เมื่อ อโยเซ เปเรซ ลงมาเล่นแทน มาร์ค อัลไบร์ทตัน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป และ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก็เปลี่ยนมาใช้ระบบ ไดมอนด์ 4-4-2 โดยดัน ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ไปเล่นเป็นเบอร์ 10 อยู่ด้านหลัง เจมี วาร์ดี้ และ อโยเซ เปเรซ และมันก็ทำลายแนวรับของลิเวอร์พูล ลงได้อย่างรายคาบ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาได้ดร็อป เจมส์ แมดดิสัน ให้มายืนตรงกลางมากขึ้น ทำให้ทีมชนะลูกกลางอากาศได้บ่อย และสามารถต่อบอลไปถึงแดนหน้าได้อย่างรวดเร็ว
และทั้งหมดก็นำไปสู่ 3 ประตูที่พวกเขาทำได้ ประตูแรกเกิดขึ้นในพื้นที่สุด ที่บอลยาวไปที่ วาร์ดี้ ที่แตะต่อให้บาร์นส์ และก็เรียกฟรีคิกได้ในพื้นที่สุดท้าย ก่อนที่ บาร์นส์ และวาร์ดี้ จะประสานงานกัน และสร้างหายนะให้กับทีมเยือน โดยลูกที่สามเกิดจากการส่งบอลตรงไปยังบาร์นซึ่งไมได้ เล่นในตำแหน่งกองหน้า หลังจากที่ตัดบอลได้ มันเป็นการเปลี่ยนตัวที่ชาญฉลาดของร็อดเจอร์ส เพราะก่อนหน้านี้ 4 ครั้งพวกเขามีปัญหากับการสับเปลี่ยนในเกมที่รวดเร็ว
กวาร์ดิโอลา ทำให้ สเปอร์ส สับสนกับรูปแบบใหม่
แมตช์นี้เป็นเรื่องของมิติของ สเปอร์ส ที่ทำให้แมนซิตี้ เล่นได้อย่างลื่นไหล เมื่อการดัน เจา กานเซโล่ มาตรงกลาง ทำให้ แฮร์รี เคน ไม่มีพื้นที่สอดเข้าไป แน่นอนว่าผู้ชนะมีเพียงแค่ทีมเดียว สเปอร์ส กลายเป็นหมดมุขอย่างชัดเจนในการเล่นเกมรุก และกลายเป็นเกมรุกของ แมนซิตี้ ที่เล่นกันอย่างมั่นใจ ทั้งในแนวลุก ที่ทำให้ มีพื้นที่ว่างมากมาย และคาดเดาได้อย่าง ของเป็ป กวาร์ดิดอลา มันเป็นเหตุผลที่ดีที่จะทำให้ เป็ป กวาร์ดิโอลา พาแชมป์มาสู่แมนฯซิตี้ ได้อีกครั้ง ด้วยการเปรับเปลี่ยนอะไรเล็กน้อย และเขามีการเปลี่ยนระบบเกือบทุกสัปดาห์ และเกมนี้ เขาก็ได้เปลี่ยนแปลงแผงเกมรับ, แดนกลาง และ เกมรุก โดยระหว่างฟูลแบ็คและกองกลาง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ กานเซโล มีหน้าที่เล่นอย่างมีวินัย และพยายามซ้อนกัน นั่นหมายความว่า แมนซิตี้ ไม่จำเป็นต้องมีกองหลังสามคน
อิลกาย กุนโดกัน และ กาเบรียล เฆซุส ประสานงานกัน โดยมี แบร์นาโด้ ซิลวายืนอยู่ด้านหลัง แม้ว่าจะมาในระบบ 4-3-3 ในการประกาศไลน์อัพ แต่เมื่อถึงเกมบุก ทุกคนจะกระจายตัวออกไปราวกันมี กองหน้า 5 คน (ผสมกับปีก) และทำให้เกมรับของเสปอร์ส มาร์คได้ไม่หมด เมื่อกุนโดกัน ระเบิดอร์ม พวกเขาไม่รู้เลยว่าต้องประกบใคร หรือตอนไหน จนทำให้เกมรับดูสับสนและวุ่นวายมาก
อาร์เซนอล แสดงให้เห็ฯนว่าการเลี้ยงบอลในแนวตรง คือวิธีเอาชนะ ลีดส์ ของเบียลซา
มันเป็นสัญญาญที่ชัดเจน ว่าทำไมลีดส์ ถึงแพ้เยอะตลอดในฤดูกาลนี้ และในเกมที่แพ้ไป 2-4 ด้วยน้ำมือของอาร์เซนอล เมื่อวันอาทิตย์ แสดงให้เห็นว่า มิเกล อาร์เตต้า ได้ทำการบ้านและเตรียมข้อมูล มาเป็นอย่างดี การประกบตัวในระบบของ เบียลซา หมายความทีมพร้อมจะเปิดพื้นที่ให้เล่นได้มากมาย และเมื่อผ่านได้สักคน มันก็จะทำให้เกิดความวุ่นวาย และรับมือได้สบายในการโต้กลับ พวกเขาจึงมีปัญหากับทีมที่เลี้ยงบอลเยอะ
การวิ่งตรงไปที่ลีดส์ เมื่อเลี้ยงชนะได้ นั่นแปลว่าคุณชนะลีดส์ ไปแล้วครึ่งตัว เพราะไม่มีการคุมโซน ในแนวรับ ไม่ได้เน้นที่การเน้นไปที่เชฟบอล และเมื่อเลี้ยงแบบตรงๆเลย นั่นเป็นปัญหาของมนุษย์ ที่ต้องทำงานร่วมกัน เมื่อเปรียบเทียบกับการออกบอลไปยังนักเตะแต่ละคน มิเกล อาร์เตต้า สมควรได้รับเครดิต ที่เน้นเรื่องการเลี้ยงบอล และสั่งให้พวกเขากล้าที่จะเล่นกับบอล
บูกาโย ซาก้า เป็นผู้นำในทุกโอกาสที่จะพุ่งไปข้างหน้า แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เป็น ดานี เซบายอส, ดาวิด หลุยส์, ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง และ เอมิล สมิธ โรว์ ก็จะเลี้ยงลูกด้วยเช่นกัน มันเหมือนเกมที่ลีดส์ แพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-6, แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-4 และแพ้เชลซี 1-4 ใครก็ตามที่เลี้ยงบอลตรงๆได้ ก็ผ่านลีดส์ได้
การพึ่งพาความสามารถเฉพาะตัวของโซลชา ถูกเปิดเผย
ตลอดขวบปีที่ชนะมาอย่างต่อเนื่อง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไมได้มีแท็คติกที่ชัดเจน พวกเขาต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ และเอาชนะในบางช่วงของเกม ในขณะที่ บรูโน แฟร์นานเดส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด แสดงให้เห็นถึงคุณภาพในพื้นที่สุด นั่นไม่ใช่วิธีที่จะเป็นแชมป์ได้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาจำเป็นต้องเอาชนะให้ได้ต่อเนื่อง แม้อยู่ในฟอร์มที่ย่ำแย่
พวกเขาเก็บได้เพียง 5 คะแนน จาก 5 เกมหลังสุด หลังจาก บรูโน ฟอร์มตกลงมา และในเกมวันอาทิตย์ กับ เวสต์บรอมฯ ก็พยายามตั้งเกมรับให้ดี ลึก และคอมแพคต์ แน่นอนว่ามันไม่ได้ต่างจากเกมอื่นทีแมนยู เจอในฤดูกาลนี้ ความเคี่ยว ความอึดอัด โครงสร้างเกมรุกที่มีเล็กน้อย คือข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ บรูโน และ แรชฟอร์ด ไม่สามารถส่งบอลเข้าประตูได้ ในครั้งนี้
เพชรของอันเชล็อตติ ที่โดนฟูแล่มย้อนด้วยระบบปีก
ในคืนวันอาทิตย์ ไดมอนด์ 4-4-2 ของเอฟเวอร์ตัน ไมได้ผลเลยกับฟูแล่ม คาร์โล อันเชล็อตติ น่าจะตอบสนองได้เร็วกว่าที่เขาทำ เอฟเวอร์ตันมีผลงานที่ไม่สม่ำเสมอขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแต่มีปัญหาเรื่องการครองบอล การเล่นร่วมกัน และกดให้ฝ่ายตรงข้ามพิงเชือก แต่การไม่มีปีก ทำให้ อเดโมลา ลุคแมน และ บ็อบบี้ คอร์โดบา รีด มีอิสระในการเล่นริมเส้น
เมื่อบอลอยู่กับสองคนนี้ ฟูแล่มก็มีโอกาสมากมาย ก่อนที่จะทำประตูแนกจากปีกซ้ายในที่สุด หลังจากนั้น อันเชล็อตติ ก็เปลี่ยนมาเล่นระบบ 4-3-3 แต่ันก็ช้าเกินไป จนทำให้ทีมเสียหาย และประตูที่สองก็เกิดขึ้นทางฝั่งซ้ายของฟูแล่ม