ในช่วงบ่ายของวันที่ 15 กันยายน เหล่าแฟนบอลอาร์เซนอล เจอกับเรื่องเซอร์ไพรส์ ในขณะที่พวกเขากำลังทำธุระปะปังอยู่ เพราะอยู่ดีๆ ก็มีการถ่ายทอดสดจากห้องแต่งตัวที่สนาม เอมิเรสต์ สเตเดียม
ก่อนที่ภาพจะฉายไปที่นาฬิกาทราย ที่มีกระดาษและปากกาวางอยู่ จากนั้นก็แพนไปที่ ปลอดแขนกัปตันทีม พร้อมด้วยหน้ากากซูเปอร์ฮีโร่ และหลังจากนั้นไม่กี่นาที ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ก็เดินออกมา พร้อมประกาศว่าในที่สุดเขาก็ตอบตกลงต่อสัญญาฉบับใหม่แล้ว
แฟนบอลกว่า 250,000 คน ทั่วโลก ติดตามการถ่ายทอดสด การเซ็นสัญญาฉบับใหม่ของโอบาเมยอง และมีผู้ชมอีกหลายล้านคน ย้อนกลับมาดูคลิปนี้อีกครั้ง มันเป็นการวางแผนของเจ้าหน้าที่ทีม เป็นเวลาหลายสัปดาห์ เพราะหลายคนต่างคาดว่าเขาไม่น่าจะต่อสัญญาฉบับใหม่ หลังการเข้ามาของมิเกล อาร์เตต้า
นักเตะระดับโลก
ข้อความพื้นฐานของอาร์เซนอล ชัดเจนว่า โอบาเมยอง เป็นนักเตะระดับโลก และคู่ควรกับแนวทางที่ตรงกันข้ามกับนโยบายของสโมสร ในการต่อสัญญาฉบับใหม่ให้กับนักเตะ โดย อาร์เซนอล ต้องการแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ใช่แค่เซ็นสัญญากับตัวเก๋า แต่นี่คือสัญญาแห่งทศวรรษ ที่มีความหมายต่ออนาคตของสโมสร
ดาวเตะของอาร์เซนอล แสดงให้เห็นว่าเขาคือแกนหลักของเกมรุกในช่วงสามเดือนก่อนหน้านี้ ก่อนที่ฤดูกาลนี้เขาจะยิงได้แค่ 2 ประตู ในพรีเมียร์ลีก และทำได้แค่ลูกเดียวจากลูกโอเพ่น เพลย์ ภาระในการยิงประตูแบกทีมดูเหมือนจะหนักเกินไปสำหรับเขา
ดาร์บี้ ลอนดอนเหนือ ทำให้หนังสือพิมพ์ จับภาพของโอบาเมยอง ไปประกบกับ แฮร์รี เคน ตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ราวกับว่าทั้งคู่คือนักมวยรุ่นเฮฟวีเวต การเปรียบเทียบมักจะดูสูสี แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป เพราะในขณะที่ เคน กำลังพัฒนาเป็นดาวยิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดในยุโรป หลังยืนระยะมานานกว่า 5 ปี แต่ โอบาเมยอง เดินทางเข้าสู่ดาร์บี้ หนนี้ด้วยฟอร์มที่แย่ที่สุด
เกิดอะไรขึ้น?
มันเกิดอะไรขึ้น และหลังจากนั้นล่ะ มันเป็นความผิดของเขาหรือเปล่า ประเด็นหลักคือ โอบาเมยอง ตกเป็นเหมือนแพะรับบาป เพราะอาร์เซนอล มีปัญหาในการสร้างโอกาส พูดง่ายๆ คือความล้มเหลวของเขาเกิดขากเพื่อนทีมสร้างโอกาสไม่ได้เลย มีเพียงสองทีมในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น ที่สร้างโอกาสได้น้อยกว่าอาร์เซนอล ในฤดูกาลนี้ ซึ่งก็คือ เลสเตอร์ ซิตี้ และ เบิร์นลีย์
สไตล์การเล่นของโอบาเมยอง มันขึ้นอยู่กับนักเตะในทีมด้วย กองหน้าในยุโรปบางคนอาจจะชงเองกินเองได้ และเคนก็เป็นตัวอย่าง แต่ในทางกลับกัน โอบาเมยอง ไม่ใช่คนที่สัมผัสบอลได้ดี เขาเป็นนักเตะประเภทที่ต้องเลี้ยงบอลเพื่อเปิดพื้นที่ เหนือสิ่งอื่นใด คือการทำประตูของเขาส่วนใหญ่อาศัยสัญชาตญาณนักล่า และการเคลื่อนไหวในเขตโทษของเขามากกว่า แต่การเคลื่อนไหวของเขาจะไม่มีประโยชน์เลย หากไม่มีคนช่วย อย่างเช่นมีการบอกว่า 53 เปอร์เซ็นต์ จากประตูที่เขาทำให้กับ อาร์เซนอล เป็นการยิงจังหวะเดียว จากลูกส่งหรือลูกครอส
ในทางกลับกัน เคน มีความหลากหลายกว่าในการทำประตู เพราะเขาทำได้เพียง 44 เปอร์เซ็นต์ จากการเข้าฮอสเท่านั้น
นับตั้งแต่ โอบาเมยอง ย้ายมาอาร์เซนอล เคนเพิ่งทำประตูจากลูกโหม่งได้เพียง 17 ครั้งเท่านั้น แต่ถ้าเทียบกับ โอบาเมยอง เพิ่งมี 3 ครั้งเท่านั้น
ความมั่นใจที่แตกสลาย
น่าเสียดายที่สุดสัปดาห์ก่อน ทีมของอาร์เตต้า มีโอกาสครอสจากลูกโอเพ่น เพลย์ถึง 30 ครั้ง ในเกมที่แพ้วูล์ฟ พวกเขาหวังแค่โยนบอลเข้าเขตโทษ แต่แทบจะไม่ถึงกัปตันทีมเลย
โอบาเมยองไม่สามารถเก็บบอลได้เลย เขาต้องให้บอลมาหาเขาอย่างแม่นยำ และยิงประตูอย่างรวดเร็ว
ความมั่นใจในตัวเพื่อนร่วมทีมก็ลดน้อยลงไป อเล็กซองเดร ลากาแซตต์ การจับคู่ของทั้งสองคนดูเหมือนจะน่ากลัวและอันตรายมากในปีแรกที่ทั้งคู่ร่วมงานกันภายใต้การคุมทีมของอูไน เอเมรี ในปี 2018/19 แต่ว่าตอนนี้การประสานงานกันกลับถอยหลังลงคลอง ลากาแซตต์ มีโอกาสน้อยมาก ที่จะส่งบอลให้ โอบาเมยอง หากดูจากค่าเฉลี่ย 2.5 ครั้งต่อเกม เมื่อปี 2018/19
ถ้าเป็นแบบนั้นจะทำอย่างไร หลังจากทีได้เห็น ลากาแซตต์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในยูโรป้า ลีก ที่ชนะ ราปิด เวียนนา เมื่อวัพฤหัสบดี ลากาแซตต์ ถอยลงไปเชื่อมบอลตรงกลางจากกลางไปหน้า และทำได้ และอาจจะทำให้ โอบาเมยอง กลับมาระเบิดฟอร์มได้อีกครั้ง
แน่นอนว่าหากชนะในเกมดาร์บี้ มันจะเป็นตัวกระตุ้นที่ดีได้ ไม่มีอะไรดีกว่าเกมนี้
โอบาเมยอง การค้นพบตัวเองที่ดีที่สุด ว่าเขาเหมาะสมกับอาร์เซนอลคือเรื่องสำคัญ “ผมเชื่อว่านี่คือเกมที่เราต้องเพื่อให้ฤดูกาลนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำหรับ” โอบาเมยอง กล่าว
ไม่มีอะไรดีไปกว่าเกมที่เปิดโอกาสให้คุณเปลี่ยนโมเมนตัม เราจำเป้นต้องรู้ว่าหากเราชนะเกมนี้ได้ความคิดของทุกคนจะเปลี่ยไนพนไป